What I See, What I Do!

23 เมษายน 13    เอาล่ะสิฉลองวันเลขสวย่ซะเลย โดนรถแท็กซี่ชนตูดซะได้ ขับรถมาบนทางด่วนความเร็วก็ไม่ได้มากมายอะไร เพราะรถเยอะ พอดีรถคันด้านหน้ามันหยุดกระทันหันซะได้ ไอ้เราก็กระทืบเบรก ไอ้รถด้านหน้านะปลอดภัย ปัญหาคือ ตูดเรานี้แหละ พี่แท็กซี่ที่ตามมาคงกะว่าจะเบียดออกซ้ายหลบไปได้พ้น    แต่สุดท้ายผลปรากฎว่า   สรุปตูดรถยับพอสมควร แต่ของพี่แท็กซี่นี้ยับมากกว่าพอสมควร เท่าที่ได้คุยกับพี่แท็กซี่ เข้าใจคราวๆว่า พี่เข้าจะต้องโดนอู่ปรับค่ามัดจำเป็นค่าเช่ารถ 3 วัน ประมาณ 2,250 บาท รวมทั้งค่ารถลาก เพราะรถพี่เค้าหม้อน้ำแตกวิ่งต่อไม่ได้ อีกประมาณ 2,000 บาท เฮอคราวเคราะห์แท้ๆ    เรื่องนี้บอกให้เรารู้ว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเวลา โปรดขับรถด้วยความไม่ประมาท ครั้งนี้โชคดีที่ไม่มีใครบาดเจ็บ แต่ถ้ามันไม่ได้พังแค่รถล่ะ คงจะแย่เลย

18 เมษายน 2556    วันนี้ได้ไปอ่านเจอบทความน่าสนใจเข้าเรื่องหนึ่ง ชื่อว่า Benjamin Franklin Effect (ผลกระทบแบบ เบ็นจามิน แฟรงกิ้น)    ความจริงก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันว่ามันคืออะไร พออ่านจบก็สรุปได้สั้นๆว่า สมองของคนเรานั้นมันเก่งเหลือเกิน เก่งจนเกินไป มันปรับตัวมันเองให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่มันมี หรือพูดง่ายๆได้ว่า มันหลอกตัวมันเองให้อยู่ในสภาวะต่างๆได้ ด้วยเวลาที่ไม่นานมาก เอาล่ะสิคราวนี้มันมาเกี่ยวอะไรกับพี่เบ็นจามิน แฟรงกิ้นล่ะเนี้ย อย่างที่หลายๆคนน่าจะทราบดีอยู่แล้วว่าพี่เบ็นเนี้ยแกเป็นอดีตประธานาธิบดี ของอเมริกา โดยหน้าพี่เค้าอยู่บนแบงค์ร้อยเหรียญ (หัวออกจะล้านๆหน่อย)    เรื่องของเรื่องก็คือ พี่เค้าเป็นคนที่ฉลาดมาก โดยในสมัยก่อนที่จะขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี พี่เค้าก็ทำงานการเมืองท้องถิ่นอยู่ โดยมีคนอยู่คนหนึ่งที่ไม่ชอบพี่เบ็นมากและมักจะมีการโต้เถียง คัดค้านพี่เบ็นอยู่เสมอๆ ในที่สุดพี่เบ็นก็คิดว่าจำเป็นจะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อแก้ไขเรื่องดังกล่าว สิ่งที่พี่เบ็นทำก็คือ ส่งโน๊ตไปให้พี่คนนั้นโดยระบุว่า อยากจะขอยืนหนังสือที่พี่คนนั้นชอบอ่านมากมาอ่าน โดยหลังจากที่พี่เบ็นได้รั

17 เมษายน 2556 มาบริจาคเลือดที่สภากาชาด ก่อนบริจาคเลือดจะมีการตรวจสุขภาพเบื้องต้น ง่ายๆ ด้วยแบบสอบถาม และวัดความดัน ผลปรากฎว่ามีความดันสูงเกินมาตราฐาน โดนจัดไปอยู่ในพวกมีความดันสูงระดับ 1 ความดันมาตราฐานทั่วไปอยู่ที่ 120/80 การเต้นของหัวใจอยู่ที่ 60~80 ครั้งต่อนาที ปัญหาอยู่ตรงนี้แหละครับ เพราะวันนี้ไปวัดความดันปรากฎว่าวัดได้　142/93 เข้าข่ายเป็นโรคความดันโลหิตสูงระดับ(ขั้นที่)1 คราวนี้ก็เลยลองดูสิว่าต้องทำอย่างไรเพื่อให้ความดันมันกลับลงมาสู่สภาวะปกติ พบว่าเป็นวิธีการที่ลำบากครับ (สำหรับผม) ๑. ลดน้ำหนัก (ความจริงอันนี้น่าจะเป็นผลพลอยได้มากกว่า) ๒. ลดเหล้า ลดเบียร (อันนี้ไม่ใช่ปัญหา เพราะไม่ค่อยมีอยู่แล้ว) ๓. ลดบุหรี่ (อันนี้ก็ไม่มีปัญหา เพราะไม่สูบเลย) ๔. ลดอาหารที่มีความเค็มสูง เกลือส่งผลโดยตรงต่อภาวะความดันผิดปกติ (อันนี้ยากมาก เพราะเป็นรสโปรดของผมเลยที่เดียว ทุกอย่างต้องเพิ่มความเค็มลงไป ทั้งเกลือ ซีอิ้ว ซอส ชีส จะลดได้เหรอเนี้ย) ๕. ออกกำลังกาย อันนี้ความจริงตอนเป็นเด็กๆ ชอบมากเลยทั้งวิ่งเลย ทั้งว่ายน้ำ แต่ตอนนี้เวลาเปลี่ยนไป หลายๆอย่างในชีวิตก็เปลี่ยนไป จนแทบไม่เหลือการออกกำลังกายเล