ลูกสาวเพิ่งเข้าอนุบาล1 ร้องไม่อยากไปโรงเรียน ร้องไห้ทุกเช้าบอกแต่อยากจะอยู่บ้านกับแม่ ไอ้เราก็ถามว่าหนูเป็นอะไร มีปัญหาอะไรที่โรงเรียนหรือเปล่า คุณครูดุ หรือตึมั้ย หรือว่าโดนเพื่อนๆ แกล้ง ไม่มีเพี่อนเล่นด้วยหรือเปล่า เป็นห่วงไปร้อยแปด ห่วงไปหมด ถามไปก็ตอบไปเรื่อยๆ ไม่รู้เรื่อง เอาแต่ร้องหนูจะอยู่กับแม่
สุดท้ายจึงตัดสินใจต้องใช้วิธีนี้แล้วแหละ ดักฟังมันซะเลย จะได้รู้ว่าตอนอยู่ที่โรงเรียนมีปัญหาอะไรกับใครมั้ย (ไม่ได้จะหาเรื่องครู หรือเพื่อนหรอกนะ แค่อยากรู้) คิดได้อย่างนี้ไม่รอช้า รีบไปแสวงหาเครื่องอัดเสียงมาโดยพลัน
(ค่าเสียหาย ประมาณ 700 บาท)
อ่านคู่มือเล็กน้อย (ความจริงไม่มีอะไรในคู่มือเลย แค่เปิดเครื่องอย่างไร ชาร์จอย่างไร แค่นั้น) ว่าแล้วก็เอาเลยทดสอบกันเลย วางเครื่องอัดเสียงใสกระเป๋านักเรียน เปิดเครื่องทิ้งไว้เลย เพราะแบตอยู่ได้นานกว่า 8 ชั่วโมงไม่ใช่ปัญหา ตอนแรกก็ยังกลัวๆอยู่ว่าจะได้ยินเสียงมั้ยนะ จะฟังออกมั้ยนะ จะชัดเจนมั้ย ต่างๆนาๆ แต่ก็ซื้อมาแล้วนี้นะ ยังไงก็ต้องใช้ได้แหละ
วันนี้ก็ไปส่งตามปกติ ร้องไห้งอแงตามปกติ "หนูจะอยู่กับแม่" ร้องงอแงเสียงดังไปหมด เหมือนปกติ พ่อแม่ทุกคนก็คงรู้สึกเหมือนกันคือ เป็นห่วงกลัวลูกจะร้องไห้นาน ไม่รู้จะหยุดร้องเมื่อไหร่ จากการใช้เครื่องอัดเสียงนี้มาตรวงสอบดูพบว่า ลูกเราใช้เวลาประมาณ 30 วินาที หลังจากที่แยกกับผม หยุดร้อง แล้วใช้เวลาอีกประมาณ 30 วินาที เพื่อไปร้องเพลงเล่นกับเพื่อนๆ เออ เด็กนี้หนาปรับตัวเร็วจริงๆเลย ปล่อยให้พ่อแม่เป็นห่วงตั้งนาน นึกว่ามีปัญหากับเพื่อน
ส่วนเรื่องคุณครูดุ ก็ตามคาดดุจริง แต่ก็ไม่ใช่เป็นยักษ์ เป็นมารอะไร เรื่องที่ดุก็ดูสมควรดีไม่ได้มากอะไรเกินไป เป็นธรรมดา โดยส่วนตัวผมว่าครูดุหน่อยน่าจะดีกับ เด็กในอนาคต (เพราะเหมือนกับเราในอดีต ที่ครูดุมาก แล้วเราก็โตมาเป็นคนดีพอสมควรล่ะนะ) ก็ตัดไป
สรุปว่าลูกเราไม่มีปัญหาอะไรที่โรงเรียน ร่วมกิจกรรมทุกอย่าง ไม่ร้องไห้ในระหว่างที่เรียน คิดว่าน่าจะแค่ร้องอ้อนพ่อแม่ตอนเช้าเท่านั้น
(ถ้าหาวิธีลง คลิปเสียงได้จะเอามาลงอีกทีนะครับ)
Comments
Post a Comment