Skip to main content

60 กลยุทธ์สร้างเด็กอัจฉริยะ ฉบับ"คุณแม่มือโปร" 頭のいい子が育つママの習慣



ผู้เขียน  :  คะซุฮิโกะ ชิมิซุ  แปลโดย ฉวีวงศ์ อัศวเสนา
ISBN  :  978-974-247-495-9
ปีที่พิมพ์ครั้งแรก  :  2010
จัดพิมพ์โดย  :  สำนักพิมพ์อมรินทร์
จำนวนหน้า  :  171 หน้า
ราคา  :  155 บาท

สรุปเนื้อหาสำคัญ

    เพราะลูกจะมีความผูกพันธ์กับลูกมาก จนกล่าวได้ว่าคนที่สร้างนิสัยต่างๆของลูกได้ ก็มีแต่คนที่เป็นแม่ แต่ก็เป็นปัญหาน่าปวดหัวของคุณแม่ทั้งหลายเพราะในหลายๆกรณีคนเป็นแม่เองก็ไม่รู้ว่าควรจะทำตัวอย่างไร เพื่อให้เด็กเติบโตขึ้นเป็นคนดี และมีความสุข หนังสือเล่มนี้จะเป็นคู่มือสำหรับคุณแม่ ผ่านทางข้อแนะนำดีๆ สำหรับทุกๆสถานการ ถึง 60 ข้อ
   โดยหนังสือจะแบ่งคำแนะนำเป็นส่วนๆ โดยใน
บทที่ 1 จะกล่าวถึงการเลี้ยงลูกให้เป็น "เด็กที่มีจิตใจบริสุทธิ์"
บทที่ 2 เลี้ยงลูกให้เป็นเด็กร่าเริงแจ่มใส
บทที่ 3 สังเกตความสามารถของลูก และค่อยให้กำลังใจ
บทที่ 4 กิจวัตรของคุณแม่ "เด็กเก่ง"
บทที่ 5 กิจวัตรของคุณแม่ทำงาน

ตัวอย่างคำแนะนำที่ได้มาจากในหนังสือ

ข้อที่ 12 สอนให้ลูกรู้ว่าความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั้น 

     คุณแม่ควรจะ กำหนดให้ลูกทำอะไรสักอย่างเป็นประจำทุกวันอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยในสิ่งที่ลูกควรทำได้ด้วยตัวเอง เพื่อฝึกให้เด็กมีความพยายามทำสิ่งต่างๆด้วยตัวเอง อย่างสุดความสามารถ และแน่นอนภูมิใจเมื่อได้ทำมันจนสำเร็จ


ข้อที่ 18 แม่ต้องทำตัวให้รู้สึกเหมือนได้ "เข้าโรงเรียน" หรือ "เริ่มเรียน" ไปพร้อมกับลูกด้วย 
   สิ่งสำคัญคือ ต้องทำให้เด็กรู้สึกเหมือนได้เรียนไปพร้อมกับเรา โดยอาจจะต้องใช้การกระตุ้นลักษณะ 5 ประการ คือ การอยากมีเพื่อนทำสิ่งต่างๆร่วมกัน, การอยากเลียนแบบ, การอยากเป็นที่ยอมรับ, การอยากแข่งขัน และ การอยากทำในสิ่งที่ท้าทายยิ่งขึ้น

ข้อที่ 22 อย่ากะเกณฑ์ตัวเองมากนัก เรื่องการเลี้ยงลูก
   อย่าผลักดันลูกให้ก้าวไปในแนวทางที่ตัวเองอยากให้เป็นจนเกินไป เพราะมันจะส่งผลให้เด็กมีความเครียด และสูญเสียความสดใสตามธรรมชาติ ทั้งยังขาดความรู้สึกอย่างที่เด็กๆ ควรจะมี อย่าให้เด็กเกิดความเข้าใจผิดว่า "แม่รักเราเพราะเราเรียนเก่ง"     

ข้อที่ 30 ชมเชยข้อดี มากกว่าตำหนิข้อเสีย
     สิ่งที่คุณแม่ควรทำคือ การให้กำลังใจลูก ลองเปลี่ยนคำพูดจากที่เป็นแนวตำหนิมาเป็นการให้กำลังใจจะทำให้เด็กมีกำลังใจในการพยายามทำให้ดียิ่งขึ้น และแน่นอนว่าการพยายามหาข้อดีมาชมเชยเด็กก็จะทำให้เด็กยิ่งมีความพยายามทำในสิ่งที่ได้รับคำชมมากยิ่งๆขึ้นด้วย

ข้อที่ 35 "รอคอย" "มอบหมาย" และ "เฝ้าดู"
   เป็นหลักการในการส่งเสริมให้เด็กมีความกระตือรือร้นในการพยายามทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้ประสบความสำเร็จด้วยตัวเอง
   "รอคอย" คือ การรอจนเด็กมีความต้องการที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ด้วยตัวเขาเอง โดยไม่ไปด่วนตัดสินใจแทนตัวเด็ก
   "มอบหมาย" คือ การมอบหมายสิ่งที่คุณแม่มั่นใจว่าเด็กสามารถทำได้ด้วยตัวเอง และอีกครั้งที่ต้องย้ำกันว่า เราต้องไม่ยื่นมือเข้าไปทำ หรือช่วยเหลือโดยไม่จำเป็นเด็ดขาด
   "เฝ้าดู" คือ การใส่ใจสำรวจว่าลูกของเรามีความถนัดในเรื่องอะไร และพยายามหาโอกาสในการส่งเสริมให้เด็กมีโอกาสได้ทำในสิ่งเหล่านั้นจนเด็กมีความมั่นใจที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ และถนัด

ข้อที่ 60 ความฝันของแม่
     ง่ายๆ คือ คุณแม่ทั้งหลายจงพยายามหาเวลาให้กับตัวเองบ้างเพื่อตามล่าความฝันของตัวเอง อาจจะใช้เวลาเพียงวันล่ะไม่กี่นาที แน่นอนการเลี้ยงลูกเป็นงานที่หนัก และต้องการทั้งเวลา และความใส่ใจเป็นอย่างมาก แต่มันก็สำคัญที่จะต้องมีเวลาเพื่อตัวเองด้วย

ข้อคิดที่ได้จากหนังสือเล่มนี้ สำหรับผม

    นี้เป็นหนังสือที่ดีมากเลยสำหรับคุณแม่ (แน่นอนคุณพ่อก็ควรได้อ่านด้วย) มีข้อคิด คำแนะนำดีๆมากมายในหนังสือเล่มนี้ที่สามารถนำมาใช้ในการเลี้ยงลูกได้ มันท้าทายความคิดของเราดีครับ (ในฐานะของคุณพ่อลูกสอง)
   ตัวอย่างเช่น เราต้องการให้ลูกของเรามีความสามารถในการช่วยเหลือตัวเอง โดยการทานข้าวเอง ซึ่งเป็นปกติที่เด็กในช่วง 2 ขวบจะอยากทำการกินอาหารด้วยตัวเอง ถ้าในช่วงนี้เราไม่ยอมให้เด็กได้ทำเอง เนื่องจากมันจะเลอะเทอะมาก นั้นก็อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เด็กขาดความพยายามในการทำอะไรด้วยตัวเองในอนาคตก็ได้
   การมอบหมายสิ่งต่างๆให้เด็กทำ อาจจะทำให้เรา (พ่อแม่) ต้องเหนื่อยมากขึ้น แต่ถ้ามันทำให้เด็กจะได้เรียนรู้การรับผิดชอบ และมีความพยายามทำในสิ่งต่างๆ ในอนาคต ผมก็คิดว่าเป็นเรื่องที่คุ้มต่อการลงทุน

[เป็นหนังสือที่แนะนำให้อ่านเลยครับ]


Nov'14

Comments

Popular posts from this blog

หลักการ 5P ส่วนผสมทางการตลาด

หลักการ 5P ส่วนผสมทางการตลาด หลักการ 5P เป็นหลักการทางด้านการตลาด (จริงๆแล้วมันก็เป็นการขยาย 4P ที่ทุกคนรู้จักกันดีแล้วนั้นเอง) แต่มีการนำมาขยายความในส่วนต่างๆ ให้มากยิ่งขึ้น 1.)  Product / Service (ผลิตภัณฑ์ หรือบริการ)  :  สินค้าหรือบริการของคุณคืออะไร มุ่งตอบสนองความต้องการหรือช่วยแก้ปัญหาอะไร ทำไมผู้บริโภคถึงต้องการสินค้าของคุณ 2.)  Person (ใคร)  กลุ่มลูกค้าของคุณคือใคร มีลักษณะเฉพาะอย่างไร โดยควรระบุรายละเอียดให้ได้มากที่สุด เช่น อายุ เพศ กำลังซื้อ เพื่อให้สามารถระบุเป้าหมายให้ได้ชัดเจนที่สุด 3.)  Price (ราคา)  มีการกำหนดราคาของสินค้าและบริการไว้อย่างไร มีความสัมพันธ์กับหัวข้อที่ 1 และ 2 หรือไม่อย่างไร และคุณวางตำแหน่งสินค้าของคุณไว้ ณ ตำแหน่งไหนของตลาด เป็นของ แบบกลางๆจะได้รับความสนใจหรือไม่ หรือควรเป็นสิ่งที่มีตำแหน่งทางการตลาดที่ชัดเจนเช่น ดีที่สุด ใหญ่ที่สุด เล็กที่สุด เร็วที่สุด เป็นต้น 4.)  Place (สถานที่)  กลุ่มลูกค้าของคุณจะสามารถเข้าถึง สินค้าและบริการของคุณได้อย่างไร ทางไหน มีความเหมาะสมกับหัวข้อที่ 2 และ 3 หรือไม่อย่างไร 5.)  Promotion (ส่งเสริมกา

ส่วนประกอบของ android แอพพลิเคชัน (Android Application Component)

    ส่วนประกอบของ แอพพลิเคชัน (Application Component) สามารถแบ่งออกได้เป็น ๔ ประเภทดังนี้ ๑. Activity (User Interface)  คือ สิ่งท่ีใช้ในการแสดงผลออกมาเพื่อให้ผู้ใช้งานได้เห็น และได้ใช้งานโดย แต่ละแอปพลิเคชนััน อาจจะมีActivity เดียว หรือหลายๆ Activity และส่ิงที่อยู่ใน Activity นั้นจะเรียกว่า View ซึ่งมีอยู่หลายรูปแบบ เช่น button, text field, scroll bars, menu items, check boxes และอื่นๆ ๒. Service (Service Provider)  เป็นส่วนที่ไม่มีการแสดงผลแต ถูกเรียกใช้ให้ รันอยู่ในลักษณะของ background process โดย service นั้นอาจจะมีการกระทำ อะไรบางอย่าง เช่น ติดต่อรับส่งข้อมูลผ่านเครือข่าย หรือคำนวณค่าต่างๆ แล้วทำการส่งข้อมูลไปแสดงยัง Activity ก็ได้ หรือการเปิดเพลงในขณะที่เรากำลังทำงานบน แอพพลิเคชั่นอื่น ๓. Broadcast receiver (DataProvider)  คือ ตัวที่ใช้สำหรับคอยรับและตอบสนองต่อ เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดข้ึน เช่น เมื่อแบตเตอรี่ต่ำ ,การเปล่ียนภาษา, มีการโทรออก, มีข้อความเข้าและอื่นๆ ถึงแม้ broadcast receiver จะไม่มีส่วนของการแสดงผลแต่ก็สามารถที่จะเรียก Activity ข้ึนมาแสดงผลให้ผู้ใช้ทราบได้

วิธีการเปลี่ยนบัญชี gmail การลบบัญชี gmail สำหรับ android

การเปลี่ยน gmail สำหรับมือถือ android เป็นปัญหาชวนปวดหัวของเราหลายๆคน ที่เพิ่งจะเปลี่ยนมือถือ หรือไม่ต้องการใช้ gmail หลักของเราไปผูกกับมือถือ android ซึ่งมีความจำเป็นต้องมี gmail ไปผูกไว้ในเครื่องเสมอ    วันนี้ผมจะขอนำเสนอวิธีการในการแก้ gmail ที่ผูกไว้กับเครื่องออกมา โดยสามารถทำได้หลายวิธีตามแต่ความประสงค์ของผู้นำไปใช้ครับ (วิธีการ และผลกระทบย่อมต่างกันออกไปตามแต่ละวิธีครับ) 1.)  เป็นวิธีที่เป็นทางการที่สุดในการแก้ gmail ที่ผูกไว้คือ การทำ Factory Reset  ผลที่จะได้รับคือ เครื่องจะแก้ค่าต่างๆ กลับไปเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตของมันคือ ตอนที่มันออกมาจากโรงงาน gmail, app ต่างๆจะถูกลบไปหมด แน่นอน ข้อมูล รูปภาพใดๆ ที่มีในเครื่องก็จะหายไปหมดด้วย วิธีการ  :  ให้ไปที่   Menu  -->  Setting  -->  Privacy  -->  Factory data reset  รอสักครู่ทุกอย่างก็จะเรียบร้อย คำแนะนำ  :  ต้องทำการสำรองข้อมูล (backup data) ที่จำเป็นทั้งหมดไว้ก่อน เพราะจะถูกลบและเรียกคืนไม่ได้ 2.)  เป็นวิธีการที่ได้ผลกับแค่บางรุ่นเท่านั้น (โดยไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด) โดยใช้การสร้าง gmail ใหม่เข้าไปในเครื่องแล้วลบ gma