ผู้เขียน : Kotaro Hisui, Mihiro Hitaka
แปล : ดร.จารุนันท์ ธนสารสมบัติ
ISBN : 978-974-443-619-1
ปีที่พิมพ์ : 2014
สำนักพิมพ์ : ส.ส.ท.
จำนวนหน้า : 232 หน้า
ราคา : 190 บาท
สรุปเนื้อหาสำคัญ
แน่นอนหนังสือเล่มนี้เป็น หนังสือในแนวให้กำลังใจตัวเอง โดยในหนังสือแบ่งออกเป็นภาคใหญ่ๆ อยู่ 5 ภาค
๑. ดึงเสน่ห์ของคุณออกมา ผ่านเรื่องราว ๑๒ เรื่องที่จะทำให้คุณ "รักตัวเอง" มากขึ้น
๒. มุมมองที่มีต่อโลกเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ผ่านเรื่องราว ๑๐ เรื่องที่จะทำให้คุณ "เป็นสุข" นับจากวินาทีนี้
๓. เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้นกับความสัมพันธ์ ผ่านเรื่องราวที่จะทำให้คุณรู้ว่า "คุณไม่ได้เดียวดาย"
๔. ทุกๆวันคือความมหัศจรรย์ที่ไม่สิ้นสุด ผ่านเรื่องราว ๑๒ เรื่องที่จะทำให้คุณ "ใช้ชีวิต" สนุกยิ่งขึ้น
๕. ย่างก้าวแรก ณ บัดนี้ ผ่านเรื่องราว ๑๖ เรื่องที่จะทำให้ "ความฝัน" ของคุณเป็นจริงขึ้นมา
ถึงแม้ในแต่ล่ะเรื่องราวจะเป็นเพียงบทความสั้นๆ ที่ดูเหมือนจับเอาแต่หัวข้อสำคัญ ของบทความจากที่ต่างๆมารวมกันเป็นเล่มเฉยๆ แต่บทความเหล่านี้ก็เหมือนกับหัวกะทิของบทความต่างๆ ทำให้อ่านได้สนุกดีครับ
ตัวอย่างบทความบางส่วนที่นำมาแนะนำกันครับ
ภาคที่ ๑ ดึงเสน่ห์ของคุณออกมา
เรื่อง เพราะมี "จุดอ่อน" จึงเป็นที่รัก : เคล็ดลับของยอดนักเขียน คุณอิโนะอุเอะ ในการเขียนการ์ตูนยอดนิยม "Slamdunk" ก็คือ "การสร้างจุดอ่อน ๑ ข้อให้กับตัวละครทุกตัว" เพราะจุดอ่อน คือจุดที่มีเสน่ห์ มนุษย์เป็นที่รักก็เพราะมีจุดอ่อน
เรื่อง ความอ่อนแอคือ "สุดยอดของขวัญ" จากพระเจ้า : เพราะอ่อนแอ ถึงต้องสู้ยิบตา ดังนั้นผู้อ่อนแอเท่านั้นที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลง และสามารถที่จะพัฒนาให้ดีขึ้นได้ สุดยอดของขวัญที่พระเจ้ามอบให้กับเราก็คือ "ความอ่อนแอ" เพราะอ่อนแอเราจึงสามารถพัฒนาได้อย่างไม่มีขีดจำกัด
เรื่อง วิธีปลดปล่อยพลังให้ได้เต็มร้อย : "จะทำได้จริงเหรอ ทำไปแล้วจะมีความหมายจริงเหรอ" อย่าได้คิดอะไรแบบนี้ให้เปลืองสมองเลยครับ ลองนึกภาพเด็กที่พยายามอย่างเต็มที่โดยไม่เสียเวลาคิดเลยว่าตัวเองจะทำได้หรือไม่ เวลาที่เด็กพยายามที่จะเดิน ไม่ว่าจะล้มลงกี่ครั้ง ก็จะพยายามทำซ้ำไปซ้ำมาไม่เคยย้อท้อ ทำไมนะหรือครับ ก็เพราะว่าแต่ละก้าวของเด็กที่เดินไปนั้น มันช่างแสนจะสนุกมีความสุขกับทุกๆก้าวตรงหน้า แล้วก็จะวิ่งได้ในที่สุด
ภาคที่ ๒ มุมมองที่มีต่อโลกเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ
เรื่อง เวทมนตร์ช่วยให้ความโกรธหายพลัน : ในสถานะการต่างๆ หากเราสามารถรู้ถึงเบื้องหลังได้ มุมมองของเราต่อสถานะการนั้นๆก็จะแตกต่างไปจากเดิม เช่น เจ้านายที่อารมย์เสียแต่เช้า อาจจะเป็นเพราะครอบครัวเขามีคนที่ไม่สบายอยู่ก็เป็นได้ หรือลูกน้องที่ไม่กระตือรือร้น อาจจะเพิ่งอกหักมา ดังนั้นก่อนที่เราจะด่วนสรุปอะไรลงไป เราควรเข้าใจอีกฝ่าย ว่ากำลังตกอยู่ในสถานะการณ์อย่างไร "สิ่งที่ตรงข้ามกับความรัก ไม่ใช่ความเกลียดชัง แต่คือความไม่ใส่ใจ" แม่ชีเทเรซ่าได้กล่าวไว้
ภาคที่ ๓ เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้นกับความสัมพันธ์
เรื่อง เมื่อค้นหา "ข้อดี" เราจะได้ "ของแถม" ที่น่ายินดีติดมาด้วยเสมอ : วิธีการง่ายๆ ที่จะทำให้เรามีความสุขได้ 100% นั้นคือ การพยายามกล่าวชมคนที่เราพบสัก ๑ ข้อทุกครั้ง เพราะคนเรามักจะเห็นในสิ่งที่เราพยายามจะเห็น และชีวิตของเราจะเปลี่ยนไปตามมุมมองนั้นๆ มองหาแต่จุดดี ก็จะมีความสุข มองแต่จุดร้าย ก็มีแต่จะหงุดหงิดใจ คุณเลือกมันเองได้
ภาคที่ ๔ ทุกๆวันคือความมหัศจรรย์ที่ไม่สิ้นสุด
เรื่อง ๑ วันอัศจรรย์ ที่ชื่อว่า "วันนี้" : ปัจจุบันเราคิดว่าเราจะมีชีวิตไปจนถึงเท่าไหร่ ถ้าลองเทียบกับชีวิตคนในสมัยเอโดะที่เฉลี่ยอยู่ที่ ๓๘ ปีเท่านั้น เราจะรู้สึกเป็นอย่างไร ความจริงคนเราเกิดมาเพื่อที่จะตายกันทุกคน ดังนั้นการมีชีวิตอยู่จึงเป็นความอัศจรรย์ ความตายไม่ใช่ความทุกข์ แต่ความรู้สึกเสียดายในสิ่งที่ยังไม่ได้ทำ ในเสี้ยววินาทีแห่งความตายต่างหาก ที่เป็นความทุกข์อย่างแท้จริง
เรื่อง แรงบันดาลใจขั้นสูงสุดของชีวิต : ในอดีตเราต่างมุ่งมั่นในการหาเงินให้ได้มาก จึงจะดูเท่ในสายตาของสังคม แต่ในปัจจุบันคนที่ใช้เงินอย่างฉลาดต่างหากที่ดูเท่ ดังนั้นจงถามตัวเองให้มากว่า สิ่งที่เรากำลังทำอยู่นี้คือ สิ่งที่เราอยากจะทำ อยากจะใช้ชีวิตแบบนี้จริงหรือ ลองค้นหาความรู้สึก ความต้องการที่แท้จริงของคุณดู เพราะความต้องการจริงๆจากในใจของคุณนี้แหละ คือแรงบันดาลใจขั้นสุดยอดที่หลับใหลอยู่ "มีบางสิ่งที่มีแต่คุณเท่านั้นที่ทำได้ คุณจึงเกิดขึ้นมา"
ภาคที่ ๕ ย่างก้าวแรก ณ บัดนี้
เรื่อง ความสามารถ และพรสวรรค์ไม่จำเป็นสำหรับ "ดวง" : อาจจะเป็นเรื่องที่ฟังดูไม่เข้าท่าที่ว่า ความสามารถ หรือพรสวรรค์ไม่ได้เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เรามีชีวิตที่ราบรื่น แต่เป็นสิ่งที่ไม่มีหลักการใดๆ แล้วเดินหน้าต่อไปทีละก้าวๆ แล้วผลลัพท์ที่ดีก็จะตามมาเอง เพียงแค่เชื่อว่าเราเป็นคน "ดวงดี" และความเป็นคน "ดวงดี" ซึ่งสามารถสร้างได้จากความเชื่อมั่นของเราเอง โดยไม่ต้องมีหลักเหตุผลใดๆทั้งสิ้น
เรื่อง "มาตรวัด" ความพยายามของแต่ละวัน : หลายๆครั้งที่เราอยากจะสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่ ในเวลาแค่ข้ามคืน (ทั้งที่ในความเป็นจริงมันแทบเป็นไปไม่ได้) แทนที่จะคิดแบบนั้นเราน่าจะคิดว่า จะทำให้ดีกว่าเมื่อวานนี้แม้เพียงเล็กน้อย โดยมันอาจจะเล็กมากจนไม่มีใครสังเกตเห็น แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก เราจะสามารถเห็นความแตกต่างได้เป็นอย่างชัดเจน จนเอาชนะตัวเองเมื่อวานนี้ให้ได้
เรื่อง ฝันเป็นจริงได้ด้วยวิธีง่ายๆ แค่นี้เอง : มันออกจะแปลกสักหน่อยเพราะเราหลายๆคนมักจะพูดว่าอยากมีความสุข แต่พวกลองคิดอย่างจริงๆจังๆว่า ความสุขของเราคืออะไร? เราส่วนมากกลับบอกมันออกมาภายในครึ่งวินาทีไม่ได้ เช่นเดียวกับการสร้างความฝันให้เป็นจริง เราจะต้องรู้อย่างน้อยที่สุด ๒ สิ่ง คือ เป้าหมาย หรือเส้นชัยต้องกำหนดให้ชัดเจน ส่วนสิ่งที่๒ ที่สำคัญไม่แพ้กันคือ จุดเริ่มต้น โดยจุดเริ่มต้นในที่นี้ก็คือ การเปิดใจยอมรับตัวเอง เราต้องยอมรับความจริงว่า ณ ปัจจุบันเราอยู่ ณ ตรงนี้ และตั้งใจแน่วแน่ว่าจะตรงไป ณ ตรงนั้น
สำหรับผมแล้ว หนังสือเล่มนี้ให้แง่คิดดีๆ อยู่หลายอย่างที่เราสามารถนับมาปรับใช้ได้ในชีวิตของเรา นี้เป็นหนังสือที่น่าอ่านเล่มหนึ่งครับ
๑. ดึงเสน่ห์ของคุณออกมา ผ่านเรื่องราว ๑๒ เรื่องที่จะทำให้คุณ "รักตัวเอง" มากขึ้น
๒. มุมมองที่มีต่อโลกเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ผ่านเรื่องราว ๑๐ เรื่องที่จะทำให้คุณ "เป็นสุข" นับจากวินาทีนี้
๓. เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้นกับความสัมพันธ์ ผ่านเรื่องราวที่จะทำให้คุณรู้ว่า "คุณไม่ได้เดียวดาย"
๔. ทุกๆวันคือความมหัศจรรย์ที่ไม่สิ้นสุด ผ่านเรื่องราว ๑๒ เรื่องที่จะทำให้คุณ "ใช้ชีวิต" สนุกยิ่งขึ้น
๕. ย่างก้าวแรก ณ บัดนี้ ผ่านเรื่องราว ๑๖ เรื่องที่จะทำให้ "ความฝัน" ของคุณเป็นจริงขึ้นมา
ถึงแม้ในแต่ล่ะเรื่องราวจะเป็นเพียงบทความสั้นๆ ที่ดูเหมือนจับเอาแต่หัวข้อสำคัญ ของบทความจากที่ต่างๆมารวมกันเป็นเล่มเฉยๆ แต่บทความเหล่านี้ก็เหมือนกับหัวกะทิของบทความต่างๆ ทำให้อ่านได้สนุกดีครับ
ตัวอย่างบทความบางส่วนที่นำมาแนะนำกันครับ
ภาคที่ ๑ ดึงเสน่ห์ของคุณออกมา
เรื่อง เพราะมี "จุดอ่อน" จึงเป็นที่รัก : เคล็ดลับของยอดนักเขียน คุณอิโนะอุเอะ ในการเขียนการ์ตูนยอดนิยม "Slamdunk" ก็คือ "การสร้างจุดอ่อน ๑ ข้อให้กับตัวละครทุกตัว" เพราะจุดอ่อน คือจุดที่มีเสน่ห์ มนุษย์เป็นที่รักก็เพราะมีจุดอ่อน
เรื่อง ความอ่อนแอคือ "สุดยอดของขวัญ" จากพระเจ้า : เพราะอ่อนแอ ถึงต้องสู้ยิบตา ดังนั้นผู้อ่อนแอเท่านั้นที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลง และสามารถที่จะพัฒนาให้ดีขึ้นได้ สุดยอดของขวัญที่พระเจ้ามอบให้กับเราก็คือ "ความอ่อนแอ" เพราะอ่อนแอเราจึงสามารถพัฒนาได้อย่างไม่มีขีดจำกัด
เรื่อง วิธีปลดปล่อยพลังให้ได้เต็มร้อย : "จะทำได้จริงเหรอ ทำไปแล้วจะมีความหมายจริงเหรอ" อย่าได้คิดอะไรแบบนี้ให้เปลืองสมองเลยครับ ลองนึกภาพเด็กที่พยายามอย่างเต็มที่โดยไม่เสียเวลาคิดเลยว่าตัวเองจะทำได้หรือไม่ เวลาที่เด็กพยายามที่จะเดิน ไม่ว่าจะล้มลงกี่ครั้ง ก็จะพยายามทำซ้ำไปซ้ำมาไม่เคยย้อท้อ ทำไมนะหรือครับ ก็เพราะว่าแต่ละก้าวของเด็กที่เดินไปนั้น มันช่างแสนจะสนุกมีความสุขกับทุกๆก้าวตรงหน้า แล้วก็จะวิ่งได้ในที่สุด
ภาคที่ ๒ มุมมองที่มีต่อโลกเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ
เรื่อง เวทมนตร์ช่วยให้ความโกรธหายพลัน : ในสถานะการต่างๆ หากเราสามารถรู้ถึงเบื้องหลังได้ มุมมองของเราต่อสถานะการนั้นๆก็จะแตกต่างไปจากเดิม เช่น เจ้านายที่อารมย์เสียแต่เช้า อาจจะเป็นเพราะครอบครัวเขามีคนที่ไม่สบายอยู่ก็เป็นได้ หรือลูกน้องที่ไม่กระตือรือร้น อาจจะเพิ่งอกหักมา ดังนั้นก่อนที่เราจะด่วนสรุปอะไรลงไป เราควรเข้าใจอีกฝ่าย ว่ากำลังตกอยู่ในสถานะการณ์อย่างไร "สิ่งที่ตรงข้ามกับความรัก ไม่ใช่ความเกลียดชัง แต่คือความไม่ใส่ใจ" แม่ชีเทเรซ่าได้กล่าวไว้
ภาคที่ ๓ เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้นกับความสัมพันธ์
เรื่อง เมื่อค้นหา "ข้อดี" เราจะได้ "ของแถม" ที่น่ายินดีติดมาด้วยเสมอ : วิธีการง่ายๆ ที่จะทำให้เรามีความสุขได้ 100% นั้นคือ การพยายามกล่าวชมคนที่เราพบสัก ๑ ข้อทุกครั้ง เพราะคนเรามักจะเห็นในสิ่งที่เราพยายามจะเห็น และชีวิตของเราจะเปลี่ยนไปตามมุมมองนั้นๆ มองหาแต่จุดดี ก็จะมีความสุข มองแต่จุดร้าย ก็มีแต่จะหงุดหงิดใจ คุณเลือกมันเองได้
ภาคที่ ๔ ทุกๆวันคือความมหัศจรรย์ที่ไม่สิ้นสุด
เรื่อง ๑ วันอัศจรรย์ ที่ชื่อว่า "วันนี้" : ปัจจุบันเราคิดว่าเราจะมีชีวิตไปจนถึงเท่าไหร่ ถ้าลองเทียบกับชีวิตคนในสมัยเอโดะที่เฉลี่ยอยู่ที่ ๓๘ ปีเท่านั้น เราจะรู้สึกเป็นอย่างไร ความจริงคนเราเกิดมาเพื่อที่จะตายกันทุกคน ดังนั้นการมีชีวิตอยู่จึงเป็นความอัศจรรย์ ความตายไม่ใช่ความทุกข์ แต่ความรู้สึกเสียดายในสิ่งที่ยังไม่ได้ทำ ในเสี้ยววินาทีแห่งความตายต่างหาก ที่เป็นความทุกข์อย่างแท้จริง
เรื่อง แรงบันดาลใจขั้นสูงสุดของชีวิต : ในอดีตเราต่างมุ่งมั่นในการหาเงินให้ได้มาก จึงจะดูเท่ในสายตาของสังคม แต่ในปัจจุบันคนที่ใช้เงินอย่างฉลาดต่างหากที่ดูเท่ ดังนั้นจงถามตัวเองให้มากว่า สิ่งที่เรากำลังทำอยู่นี้คือ สิ่งที่เราอยากจะทำ อยากจะใช้ชีวิตแบบนี้จริงหรือ ลองค้นหาความรู้สึก ความต้องการที่แท้จริงของคุณดู เพราะความต้องการจริงๆจากในใจของคุณนี้แหละ คือแรงบันดาลใจขั้นสุดยอดที่หลับใหลอยู่ "มีบางสิ่งที่มีแต่คุณเท่านั้นที่ทำได้ คุณจึงเกิดขึ้นมา"
ภาคที่ ๕ ย่างก้าวแรก ณ บัดนี้
เรื่อง ความสามารถ และพรสวรรค์ไม่จำเป็นสำหรับ "ดวง" : อาจจะเป็นเรื่องที่ฟังดูไม่เข้าท่าที่ว่า ความสามารถ หรือพรสวรรค์ไม่ได้เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เรามีชีวิตที่ราบรื่น แต่เป็นสิ่งที่ไม่มีหลักการใดๆ แล้วเดินหน้าต่อไปทีละก้าวๆ แล้วผลลัพท์ที่ดีก็จะตามมาเอง เพียงแค่เชื่อว่าเราเป็นคน "ดวงดี" และความเป็นคน "ดวงดี" ซึ่งสามารถสร้างได้จากความเชื่อมั่นของเราเอง โดยไม่ต้องมีหลักเหตุผลใดๆทั้งสิ้น
เรื่อง "มาตรวัด" ความพยายามของแต่ละวัน : หลายๆครั้งที่เราอยากจะสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่ ในเวลาแค่ข้ามคืน (ทั้งที่ในความเป็นจริงมันแทบเป็นไปไม่ได้) แทนที่จะคิดแบบนั้นเราน่าจะคิดว่า จะทำให้ดีกว่าเมื่อวานนี้แม้เพียงเล็กน้อย โดยมันอาจจะเล็กมากจนไม่มีใครสังเกตเห็น แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก เราจะสามารถเห็นความแตกต่างได้เป็นอย่างชัดเจน จนเอาชนะตัวเองเมื่อวานนี้ให้ได้
เรื่อง ฝันเป็นจริงได้ด้วยวิธีง่ายๆ แค่นี้เอง : มันออกจะแปลกสักหน่อยเพราะเราหลายๆคนมักจะพูดว่าอยากมีความสุข แต่พวกลองคิดอย่างจริงๆจังๆว่า ความสุขของเราคืออะไร? เราส่วนมากกลับบอกมันออกมาภายในครึ่งวินาทีไม่ได้ เช่นเดียวกับการสร้างความฝันให้เป็นจริง เราจะต้องรู้อย่างน้อยที่สุด ๒ สิ่ง คือ เป้าหมาย หรือเส้นชัยต้องกำหนดให้ชัดเจน ส่วนสิ่งที่๒ ที่สำคัญไม่แพ้กันคือ จุดเริ่มต้น โดยจุดเริ่มต้นในที่นี้ก็คือ การเปิดใจยอมรับตัวเอง เราต้องยอมรับความจริงว่า ณ ปัจจุบันเราอยู่ ณ ตรงนี้ และตั้งใจแน่วแน่ว่าจะตรงไป ณ ตรงนั้น
สำหรับผมแล้ว หนังสือเล่มนี้ให้แง่คิดดีๆ อยู่หลายอย่างที่เราสามารถนับมาปรับใช้ได้ในชีวิตของเรา นี้เป็นหนังสือที่น่าอ่านเล่มหนึ่งครับ
Comments
Post a Comment