Skip to main content

เพิ่มประสิทธิภาพในการมอบหมายงานด้วยหลัก 5 ประการ



ที่มา www.inc.com

เห็นว่ามีเนื้อหาน่าสนใจดีนะครับ เลยอยากจะเก็บไว้ และแบ่งปันกัน

   เมื่อเราเปลี่ยนสถานะจากลูกน้องตัวเล็กสุด มาเป็นหัวหน้า สิ่งที่ตามมาก็คือความรับผิดชอบที่มากขึ้น และเป็นเรื่องปกติที่ไอ้เจ้าความรับผิดชอบนั้นก็มักจะเกิดกว่าเวลาที่เรามี นั้นคือเหตุผลที่หัวหน้าจะต้องมีลูกน้อง เพื่อให้หัวหน้าได้มอบหมายงานต่างๆให้ทำ เพื่อให้ทีมสามารถทำงานต่างๆได้สำเร็จ

   แต่ก็อีกนั้นแหละ การเปลี่ยนจากลงมือทำเอง ไปเป็นมอบหมายงานให้คนอื่นทำ จริงๆแล้วเป็นความท้าทายอย่างมาก เพราะยังไงซะสั่งตัวเองทำ มันก็ได้ดังใจอยู่แล้ว แต่พอเป็นคนอื่นทำ (ถึงจะดีเลิศ) ก็ไม่ค่อยจะได้ดั่งใจเท่าไร

   นั้นคือเหตุผลที่ทำให้หัวหน้าหลายๆคน ที่เคยทำงานได้ดีมากในตอนเป็นลูกน้อง แต่กลับทำงานตอนเป็นหัวหน้าได้ไม่ดีเลย หลักๆก็เพราะไม่สามารถมอบหมายงานได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นเอง

หลักในการเพิ่มประสิทธิภาพในการมอบหมายงาน 5 ประการ คือ

1.  ต้องให้ความชัดเจน  :  เป้าหมายที่ต้องการ ระยะเวลา รูปแบบ หรืออะไรก็ตามที่คุณต้องการให้ลูกทีมเข้าใจ ให้มีความชัดเจนที่สุดที่จะทำได้ การพูดเป้าหมายที่กว้างมากจะทำให้ลูกทีมไม่สามารถทำงานได้สำเร็จอย่างที่คุณต้องการ

2.)  ต้องให้ความไว้ใจ  :  ต้องเชื่อมั่นในตัวลูกทีมที่เราได้มอบหมายงานไปให้ การไม่ไปล้วงลูกซะทุกอย่างจะทำให้ทีมงานมีความมั่นใจที่จะทำงานที่ได้รับมอบหมายมาให้สำเร็จ การไปไล่ล้วงลูกจะเป็นการทำร้ายทีมอย่างร้ายแรง เพราะลูกทีมจะไม่รู้สึกถึงความเป็นเจ้าของงานนั้นๆ และจะทำให้งานไม่เดินหน้าอีกด้วย

3.)  หมั่นสอบถามความคืบหน้า  :  อย่าปล่อยให้ลูกทีมของคุณเดียวดาย การสั่งงานแล้วทิ้งไปเลย ด้วยความคิดว่าลูกทีมเข้าใจเป้าหมายอย่างถูกแล้วนั้น หลายๆครั้งอาจจะเป็นความเข้าใจของคุณคนเดียว พอสุดท้ายลูกทีมคุณอาจจะทำงานพลายเป้าหมายไปไกล เพราะความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน (ใช่แล้วแม้คุณจะทำข้อ 1 ได้ดีแล้วแต่คุณก็ยังต้องค่อยตรวจสอบเป็นระยะๆ และอย่าสับสนกับข้อ 2 เพราะการสอบถามความคืบหน้า ไม่ใช่การไปแย่งงานลูกทีมของคุณทำ)

4.)  สร้างตารางติดตามงาน  :  การสร้างตารางติดตามงานโดยรวมเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะให้ลูกทีมของคุณมีความตื่นตัว และเป็นวิธีป้องกันงานที่อาจจะเสร็จไม่ทันตามกำหนดที่ดีอีกด้วย

5.)  ให้คำแนะนำที่จำเป็น  :  เมื่อคุณมีการติดตามความคืบหน้าของงานที่ได้มอบหมายไปแล้ว คุณมีหน้าที่ที่สำคัญมากอยู่อย่างหนึ่งคือ การให้คำแนะนำ (จะติ หรือ ชม หรืออะไรก็แล้วแต่) จงให้คำแนะนำที่จำเป็นต่อลูกทีมเสมอ และอย่าลืมว่าการให้คำแนะนำจะต้องดูเรื่องกาละเทสะด้วยนะ ไม่อย่างนั้นแทนที่จะได้รับผลดีกับทีม อาจจะกลายเป็นผลร้ายไปเสียก็ได้

Comments

Popular posts from this blog

ส่วนประกอบของ android แอพพลิเคชัน (Android Application Component)

    ส่วนประกอบของ แอพพลิเคชัน (Application Component) สามารถแบ่งออกได้เป็น ๔ ประเภทดังนี้ ๑. Activity (User Interface)  คือ สิ่งท่ีใช้ในการแสดงผลออกมาเพื่อให้ผู้ใช้งานได้เห็น และได้ใช้งานโดย แต่ละแอปพลิเคชนััน อาจจะมีActivity เดียว หรือหลายๆ Activity และส่ิงที่อยู่ใน Activity นั้นจะเรียกว่า View ซึ่งมีอยู่หลายรูปแบบ เช่น button, text field, scroll bars, menu items, check boxes และอื่นๆ ๒. Service (Service Provider)  เป็นส่วนที่ไม่มีการแสดงผลแต ถูกเรียกใช้ให้ รันอยู่ในลักษณะของ background process โดย service นั้นอาจจะมีการกระทำ อะไรบางอย่าง เช่น ติดต่อรับส่งข้อมูลผ่านเครือข่าย หรือคำนวณค่าต่างๆ แล้วทำการส่งข้อมูลไปแสดงยัง Activity ก็ได้ หรือการเปิดเพลงในขณะที่เรากำลังทำงานบน แอพพลิเคชั่นอื่น ๓. Broadcast receiver (DataProvider)  คือ ตัวที่ใช้สำหรับคอยรับและตอบสนองต่อ เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดข้ึน เช่น เมื่อแบตเตอรี่ต่ำ ,การเปล่ียนภาษา, มีการโทรออก, มีข้อความเข้าและอื่นๆ ถึงแม้ broadcast receiver จะไม่มีส่วนของการแสดงผลแต่ก็สามารถที่จะเรียก...

หลักการ 5P ส่วนผสมทางการตลาด

หลักการ 5P ส่วนผสมทางการตลาด หลักการ 5P เป็นหลักการทางด้านการตลาด (จริงๆแล้วมันก็เป็นการขยาย 4P ที่ทุกคนรู้จักกันดีแล้วนั้นเอง) แต่มีการนำมาขยายความในส่วนต่างๆ ให้มากยิ่งขึ้น 1.)  Product / Service (ผลิตภัณฑ์ หรือบริการ)  :  สินค้าหรือบริการของคุณคืออะไร มุ่งตอบสนองความต้องการหรือช่วยแก้ปัญหาอะไร ทำไมผู้บริโภคถึงต้องการสินค้าของคุณ 2.)  Person (ใคร)  กลุ่มลูกค้าของคุณคือใคร มีลักษณะเฉพาะอย่างไร โดยควรระบุรายละเอียดให้ได้มากที่สุด เช่น อายุ เพศ กำลังซื้อ เพื่อให้สามารถระบุเป้าหมายให้ได้ชัดเจนที่สุด 3.)  Price (ราคา)  มีการกำหนดราคาของสินค้าและบริการไว้อย่างไร มีความสัมพันธ์กับหัวข้อที่ 1 และ 2 หรือไม่อย่างไร และคุณวางตำแหน่งสินค้าของคุณไว้ ณ ตำแหน่งไหนของตลาด เป็นของ แบบกลางๆจะได้รับความสนใจหรือไม่ หรือควรเป็นสิ่งที่มีตำแหน่งทางการตลาดที่ชัดเจนเช่น ดีที่สุด ใหญ่ที่สุด เล็กที่สุด เร็วที่สุด เป็นต้น 4.)  Place (สถานที่)  กลุ่มลูกค้าของคุณจะสามารถเข้าถึง สินค้าและบริการของคุณได้อย่างไร ทางไหน มีความเหมาะสมกับหัวข้อที่ 2 และ 3...

แผนภาพวาดให้เป็น เก่งนำเสนอ

ผู้เขียน  :  Yamda Masao แปลโดย ประวัติ เพียรเจริญ ISBN  :  978-974-443-460-9 ปีที่พิมพ์ครั้งแรก  :  2012 จัดพิมพ์โดย  :  สำนักพิมพ์ ส.ส.ท. จำนวนหน้า  :  272 หน้า ราคา  :  220 บาท สรุปเนื้อหาสำคัญ    หนังสือเล่มนี้ไม่ได้เป็นหนังสือที่สอนวิธีการวาดภาพ แต่เป็นหนังสือที่สอนให้ใช้รูปภาพ (หมายถึง แผนภูมิ, กราฟ และตารางต่างๆ) เพื่อใช้ในการนำเสนอสิ่งต่างๆ ความคิดเห็น ข้อมูล ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งหวังให้คนอ่านสามารถทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้น เพราะความคิดของแต่ล่ะคนไม่เหมือนกัน การนำเสนอความคิดด้วยภาพจึงมีความสำคัญมาก  "ความคิดถึงแม้จะดีแค่ไหน แต่ถ้าไม่สามารถอธิบายให้คนอื่นเข้าใจได้ ก็ไร้ประโยชน์"    โดยมีการแยกสัดส่วนของเนื้อหาได้ดี มีการสรุปเป็นหัวข้อๆ ให้เข้าใจได้ง่าย โดยแบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม คือ  สารที่ต้องการสื่อออกไป เป็นการกำหนดสิ่งที่ต้องการจะถ่ายทอดออกไปให้ชัดเจน และเรียยเรียงอย่างมีระบบ รูปแบบ หรือกรอบความคิดที่จะใช้สำหรับสื่อสาร "สาร" ออกไป เช่นเป็นตารางข้อมูล เ...