หลายๆคนมักจะเจอปัญหาคล้ายๆกันว่า ทำไมเราถึงไม่สามารถทำสิ่งต่างๆได้สำเร็จอย่างที่เราตั้งใจ ไม่ว่าจะพยายามทำมันเท่าไหร่ มันก็ไม่สำเร็จเป็นรูปเป็นร่างเสียที
ผมอยากจะนำเสนอข้อคิดเกี่ยวกับ เทคนิคการทำสิ่งต่างๆให้ลุล่วง ให้สำเร็จ โดยสรุปเป็นเทคนิคทั้่งหมดแค่ ๓ ข้อก็พอ เพื่อไม่ให้ชักช้าเรามาเริ่มกันเลย
๑ การสร้างเป้าหมายที่ชัดเจน เป็นรูปธรรม
โดยเราจะต้องพยายามทำให้เราสามารถเห็นเป้าหมายนั้นได้อย่างชัดเจน ตลอดเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้เราเดินหลงทาง เช่นในหลายๆหนังสือ มักจะบอกให้เราเขียนเป้าหมายออกมาแล้วอ่านมันทุกเช้า ทุกเย็น อ่านจนเหมือนจะสะกดจิตตัวเอง เอาจนเข้าไปในสามัญสำนึก เข้าไปในความฝัน ทั้งหมดก็เพียงให้เราไม่ลืมเป้าหมายของเรา
เน้นย้ำถึงสาเหตุที่เราอยากจะทำสิ่งใดๆนั้นให้สำเร็จ หรือประโยชน์ที่เราจะได้รับหากเราสามารถทำสิ่งนั้นๆ ให้สำเร็จลงได้
จงเริ่มตั้งเป้าหมายจาก เหตุผลก่อน ว่าทำไมเราถึงอยากจะทำสิ่งนั้นๆ แล้วจึงย้อนออกมาที่วิธีการว่าจะต้องทำอย่างไรเราจึงจะสามารถประสบความสำเร็จแบบที่ตั้งใจเอาไว้ได้ แล้วจึงย้อนออกมาที่การลงมือทำ อะไรที่จะต้องทำ
จงอย่ากลัวความผิดพลาด คนเราย่อมต้องมีการเรียนรู้กันทุกคน ไม่มีใครเลยที่จะไม่เคยทำอะไรผิดพลาด สิ่งที่ต้องเป็นห่วงจึงไม่ใช่ความผิดพลาด หากแต่เป็นการไม่ยอมลงมือทำ และการไม่ยอมเรียนรู้เมื่อเกิดความผิดพลาดใดๆขึ้น
ในวงการ Start Up เป็นที่สอนกันโดยทั่วไปว่า จงล้มให้เร็ว แล้วจงลุกให้เร็ว และจงเรียนรู้จากทุกการล้ม เพื่อพัฒนาต่อไปอย่างรวดเร็ว โดยเรียกเจ้าวงเวียนการล้มแล้วลุกนี้ว่า วงเวียน Build - Measure - Learn (ลงมือ - ตรวจสอบ - เรียนรู้)
จงอย่ารอให้ทุกอย่างพร้อมสมบูรณ์อย่างเต็มที่ก่อนที่จะลงมือทำ ขอให้เรียนรู้และเชื่อในกฏ 80/20 ที่ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราลงมือทำนั้น มีเพียง 20% เท่านั้นที่จะส่งผลถึง 80% ของผลงานทั้งหมด
ดังนั้น ด้วยความพร้อมเพียง 20% เราก็สามารถจะทำงานได้ลุล่วงไปแล้วถึง 80% จงอย่ารอ จงลงมือทำไป เรียนรู้ไปพร้อมๆกัน
นั้นคือเราจะต้องมีความอดทนกับสิ่งต่างๆ ที่เราต้องการจะทำให้ได้ให้มากพอ อย่ายอมแพ้ไปก่อนเวลา อย่าใจร้อนต้องเข้าใจว่าทุกอย่างใช้เวลาไม่เท่ากัน ทุกความสำเร็จต้องลงมือทำ ต้องให้เวลา ต้องอุตสาหะ ไม่มีทางลัด(สบายๆ) สำหรับทุกความสำเร็จ
ผมเขียนบทความนี้โดยได้แรงบันดาลใจจาก http://thenextweb.com/insider/2016/04/09/6-golden-rules-learn-anything-record-time/
ผมอยากจะนำเสนอข้อคิดเกี่ยวกับ เทคนิคการทำสิ่งต่างๆให้ลุล่วง ให้สำเร็จ โดยสรุปเป็นเทคนิคทั้่งหมดแค่ ๓ ข้อก็พอ เพื่อไม่ให้ชักช้าเรามาเริ่มกันเลย
๑ การสร้างเป้าหมายที่ชัดเจน เป็นรูปธรรม
๒ การลงมือทำ (เรียนรู้) อย่างรวดเร็ว
๓ การไม่ยอมลดละ
๑ การสร้างเป้าหมายที่ชัดเจน เป็นรูปธรรม
กล่าวได้ว่านี้คือก้าวแรกสู่ความสำเร็จ โดยหากเราไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน เราก็จะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเราทำงานมาใกล้ความสำเร็จแล้วหรือยัง เหมือนอย่างที่เราเคยได้ยินมาว่า "เริ่มต้นดีก็สำเร็จไปแล้วกว่าครึ่ง"โดยเราจะต้องพยายามทำให้เราสามารถเห็นเป้าหมายนั้นได้อย่างชัดเจน ตลอดเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้เราเดินหลงทาง เช่นในหลายๆหนังสือ มักจะบอกให้เราเขียนเป้าหมายออกมาแล้วอ่านมันทุกเช้า ทุกเย็น อ่านจนเหมือนจะสะกดจิตตัวเอง เอาจนเข้าไปในสามัญสำนึก เข้าไปในความฝัน ทั้งหมดก็เพียงให้เราไม่ลืมเป้าหมายของเรา
เน้นย้ำถึงสาเหตุที่เราอยากจะทำสิ่งใดๆนั้นให้สำเร็จ หรือประโยชน์ที่เราจะได้รับหากเราสามารถทำสิ่งนั้นๆ ให้สำเร็จลงได้
จงเริ่มตั้งเป้าหมายจาก เหตุผลก่อน ว่าทำไมเราถึงอยากจะทำสิ่งนั้นๆ แล้วจึงย้อนออกมาที่วิธีการว่าจะต้องทำอย่างไรเราจึงจะสามารถประสบความสำเร็จแบบที่ตั้งใจเอาไว้ได้ แล้วจึงย้อนออกมาที่การลงมือทำ อะไรที่จะต้องทำ
๒ การลงมือทำ (เรียนรู้) อย่างรวดเร็ว
หลังจากตั้งเป้าหมายได้แล้ว เรียกได้ว่าเริ่มออกเดินก้าวแรกกันแล้ว สิ่งที่จะต้องรีบทำต่อไปเลยอย่างรวดเร็วก็คือ การลงมือทำ การเรียนรู้ข้อผิดพลาด และปรับปรุง แก้ไขให้ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว เหมือนกับการย่างเดิน หากออกเท้าเดินก้าวแรกไปแล้ว แต่ไม่ยอมยกขาก้าวเดินตามมา สุดท้ายก็ไม่ได้ไปไหน ยังหยุดอยู่กับที่เหมือนเดิมจงอย่ากลัวความผิดพลาด คนเราย่อมต้องมีการเรียนรู้กันทุกคน ไม่มีใครเลยที่จะไม่เคยทำอะไรผิดพลาด สิ่งที่ต้องเป็นห่วงจึงไม่ใช่ความผิดพลาด หากแต่เป็นการไม่ยอมลงมือทำ และการไม่ยอมเรียนรู้เมื่อเกิดความผิดพลาดใดๆขึ้น
ในวงการ Start Up เป็นที่สอนกันโดยทั่วไปว่า จงล้มให้เร็ว แล้วจงลุกให้เร็ว และจงเรียนรู้จากทุกการล้ม เพื่อพัฒนาต่อไปอย่างรวดเร็ว โดยเรียกเจ้าวงเวียนการล้มแล้วลุกนี้ว่า วงเวียน Build - Measure - Learn (ลงมือ - ตรวจสอบ - เรียนรู้)
จงอย่ารอให้ทุกอย่างพร้อมสมบูรณ์อย่างเต็มที่ก่อนที่จะลงมือทำ ขอให้เรียนรู้และเชื่อในกฏ 80/20 ที่ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราลงมือทำนั้น มีเพียง 20% เท่านั้นที่จะส่งผลถึง 80% ของผลงานทั้งหมด
ดังนั้น ด้วยความพร้อมเพียง 20% เราก็สามารถจะทำงานได้ลุล่วงไปแล้วถึง 80% จงอย่ารอ จงลงมือทำไป เรียนรู้ไปพร้อมๆกัน
๓ การไม่ยอมลดละ
สิ่งสำคัญที่สุดที่ส่งผลให้หลายๆคนทำอะไรไม่เสร็จลุล่วงได้คือ การถอดใจเสียก่อน จากการศึกษาผู้ที่เล่นไวโอลีน พบว่าความแตกต่างในเวลาระหว่างผู้เล่นไวโอลีนฝึมือดี กับมืออาชีพ มีเวลาในการฝึกต่างกันอยู่ที่ 2,000 ชั่วโมง (มืออาชีพ ฝึกที่ 10,000 ชั่วโมง) อันกลายมาเป็นกฏของการแยกระหว่างมือสมัครเล่น กับมืออาชีพ ที่มีชั่วโมงในการฝึก หรือทำสิ่งนั้นๆ ที่ 10,000 ชั่วโมงขึ้นไปนั้นคือเราจะต้องมีความอดทนกับสิ่งต่างๆ ที่เราต้องการจะทำให้ได้ให้มากพอ อย่ายอมแพ้ไปก่อนเวลา อย่าใจร้อนต้องเข้าใจว่าทุกอย่างใช้เวลาไม่เท่ากัน ทุกความสำเร็จต้องลงมือทำ ต้องให้เวลา ต้องอุตสาหะ ไม่มีทางลัด(สบายๆ) สำหรับทุกความสำเร็จ
ผมเขียนบทความนี้โดยได้แรงบันดาลใจจาก http://thenextweb.com/insider/2016/04/09/6-golden-rules-learn-anything-record-time/
Comments
Post a Comment