Skip to main content

เทคนิคในการทำสิ่งต่างๆให้ลุล่วง

หลายๆคนมักจะเจอปัญหาคล้ายๆกันว่า ทำไมเราถึงไม่สามารถทำสิ่งต่างๆได้สำเร็จอย่างที่เราตั้งใจ ไม่ว่าจะพยายามทำมันเท่าไหร่ มันก็ไม่สำเร็จเป็นรูปเป็นร่างเสียที

ผมอยากจะนำเสนอข้อคิดเกี่ยวกับ เทคนิคการทำสิ่งต่างๆให้ลุล่วง ให้สำเร็จ โดยสรุปเป็นเทคนิคทั้่งหมดแค่ ๓ ข้อก็พอ เพื่อไม่ให้ชักช้าเรามาเริ่มกันเลย

๑ การสร้างเป้าหมายที่ชัดเจน เป็นรูปธรรม 
๒ การลงมือทำ (เรียนรู้) อย่างรวดเร็ว
๓ การไม่ยอมลดละ


๑ การสร้างเป้าหมายที่ชัดเจน เป็นรูปธรรม 

   กล่าวได้ว่านี้คือก้าวแรกสู่ความสำเร็จ โดยหากเราไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน เราก็จะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเราทำงานมาใกล้ความสำเร็จแล้วหรือยัง เหมือนอย่างที่เราเคยได้ยินมาว่า "เริ่มต้นดีก็สำเร็จไปแล้วกว่าครึ่ง"
   
   โดยเราจะต้องพยายามทำให้เราสามารถเห็นเป้าหมายนั้นได้อย่างชัดเจน ตลอดเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้เราเดินหลงทาง เช่นในหลายๆหนังสือ มักจะบอกให้เราเขียนเป้าหมายออกมาแล้วอ่านมันทุกเช้า ทุกเย็น อ่านจนเหมือนจะสะกดจิตตัวเอง เอาจนเข้าไปในสามัญสำนึก เข้าไปในความฝัน ทั้งหมดก็เพียงให้เราไม่ลืมเป้าหมายของเรา
   
   เน้นย้ำถึงสาเหตุที่เราอยากจะทำสิ่งใดๆนั้นให้สำเร็จ หรือประโยชน์ที่เราจะได้รับหากเราสามารถทำสิ่งนั้นๆ ให้สำเร็จลงได้

   จงเริ่มตั้งเป้าหมายจาก เหตุผลก่อน ว่าทำไมเราถึงอยากจะทำสิ่งนั้นๆ แล้วจึงย้อนออกมาที่วิธีการว่าจะต้องทำอย่างไรเราจึงจะสามารถประสบความสำเร็จแบบที่ตั้งใจเอาไว้ได้ แล้วจึงย้อนออกมาที่การลงมือทำ อะไรที่จะต้องทำ

๒ การลงมือทำ (เรียนรู้) อย่างรวดเร็ว

   หลังจากตั้งเป้าหมายได้แล้ว เรียกได้ว่าเริ่มออกเดินก้าวแรกกันแล้ว สิ่งที่จะต้องรีบทำต่อไปเลยอย่างรวดเร็วก็คือ การลงมือทำ การเรียนรู้ข้อผิดพลาด และปรับปรุง แก้ไขให้ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว เหมือนกับการย่างเดิน หากออกเท้าเดินก้าวแรกไปแล้ว แต่ไม่ยอมยกขาก้าวเดินตามมา สุดท้ายก็ไม่ได้ไปไหน ยังหยุดอยู่กับที่เหมือนเดิม


   จงอย่ากลัวความผิดพลาด คนเราย่อมต้องมีการเรียนรู้กันทุกคน ไม่มีใครเลยที่จะไม่เคยทำอะไรผิดพลาด สิ่งที่ต้องเป็นห่วงจึงไม่ใช่ความผิดพลาด หากแต่เป็นการไม่ยอมลงมือทำ และการไม่ยอมเรียนรู้เมื่อเกิดความผิดพลาดใดๆขึ้น

   ในวงการ Start Up เป็นที่สอนกันโดยทั่วไปว่า จงล้มให้เร็ว แล้วจงลุกให้เร็ว และจงเรียนรู้จากทุกการล้ม เพื่อพัฒนาต่อไปอย่างรวดเร็ว โดยเรียกเจ้าวงเวียนการล้มแล้วลุกนี้ว่า วงเวียน Build - Measure - Learn (ลงมือ - ตรวจสอบ - เรียนรู้)

   จงอย่ารอให้ทุกอย่างพร้อมสมบูรณ์อย่างเต็มที่ก่อนที่จะลงมือทำ ขอให้เรียนรู้และเชื่อในกฏ 80/20 ที่ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราลงมือทำนั้น มีเพียง 20% เท่านั้นที่จะส่งผลถึง 80% ของผลงานทั้งหมด

   ดังนั้น ด้วยความพร้อมเพียง 20% เราก็สามารถจะทำงานได้ลุล่วงไปแล้วถึง 80% จงอย่ารอ จงลงมือทำไป เรียนรู้ไปพร้อมๆกัน


๓ การไม่ยอมลดละ

   สิ่งสำคัญที่สุดที่ส่งผลให้หลายๆคนทำอะไรไม่เสร็จลุล่วงได้คือ การถอดใจเสียก่อน จากการศึกษาผู้ที่เล่นไวโอลีน พบว่าความแตกต่างในเวลาระหว่างผู้เล่นไวโอลีนฝึมือดี กับมืออาชีพ มีเวลาในการฝึกต่างกันอยู่ที่ 2,000 ชั่วโมง (มืออาชีพ ฝึกที่ 10,000 ชั่วโมง) อันกลายมาเป็นกฏของการแยกระหว่างมือสมัครเล่น กับมืออาชีพ ที่มีชั่วโมงในการฝึก หรือทำสิ่งนั้นๆ ที่ 10,000 ชั่วโมงขึ้นไป

    นั้นคือเราจะต้องมีความอดทนกับสิ่งต่างๆ ที่เราต้องการจะทำให้ได้ให้มากพอ อย่ายอมแพ้ไปก่อนเวลา อย่าใจร้อนต้องเข้าใจว่าทุกอย่างใช้เวลาไม่เท่ากัน ทุกความสำเร็จต้องลงมือทำ ต้องให้เวลา ต้องอุตสาหะ ไม่มีทางลัด(สบายๆ) สำหรับทุกความสำเร็จ


ผมเขียนบทความนี้โดยได้แรงบันดาลใจจาก http://thenextweb.com/insider/2016/04/09/6-golden-rules-learn-anything-record-time/

Comments

Popular posts from this blog

หลักการ 5P ส่วนผสมทางการตลาด

หลักการ 5P ส่วนผสมทางการตลาด หลักการ 5P เป็นหลักการทางด้านการตลาด (จริงๆแล้วมันก็เป็นการขยาย 4P ที่ทุกคนรู้จักกันดีแล้วนั้นเอง) แต่มีการนำมาขยายความในส่วนต่างๆ ให้มากยิ่งขึ้น 1.)  Product / Service (ผลิตภัณฑ์ หรือบริการ)  :  สินค้าหรือบริการของคุณคืออะไร มุ่งตอบสนองความต้องการหรือช่วยแก้ปัญหาอะไร ทำไมผู้บริโภคถึงต้องการสินค้าของคุณ 2.)  Person (ใคร)  กลุ่มลูกค้าของคุณคือใคร มีลักษณะเฉพาะอย่างไร โดยควรระบุรายละเอียดให้ได้มากที่สุด เช่น อายุ เพศ กำลังซื้อ เพื่อให้สามารถระบุเป้าหมายให้ได้ชัดเจนที่สุด 3.)  Price (ราคา)  มีการกำหนดราคาของสินค้าและบริการไว้อย่างไร มีความสัมพันธ์กับหัวข้อที่ 1 และ 2 หรือไม่อย่างไร และคุณวางตำแหน่งสินค้าของคุณไว้ ณ ตำแหน่งไหนของตลาด เป็นของ แบบกลางๆจะได้รับความสนใจหรือไม่ หรือควรเป็นสิ่งที่มีตำแหน่งทางการตลาดที่ชัดเจนเช่น ดีที่สุด ใหญ่ที่สุด เล็กที่สุด เร็วที่สุด เป็นต้น 4.)  Place (สถานที่)  กลุ่มลูกค้าของคุณจะสามารถเข้าถึง สินค้าและบริการของคุณได้อย่างไร ทางไหน มีความเหมาะสมกับหัวข้อที่ 2 และ 3 หรือไม่อย่างไร 5.)  Promotion (ส่งเสริมกา

ส่วนประกอบของ android แอพพลิเคชัน (Android Application Component)

    ส่วนประกอบของ แอพพลิเคชัน (Application Component) สามารถแบ่งออกได้เป็น ๔ ประเภทดังนี้ ๑. Activity (User Interface)  คือ สิ่งท่ีใช้ในการแสดงผลออกมาเพื่อให้ผู้ใช้งานได้เห็น และได้ใช้งานโดย แต่ละแอปพลิเคชนััน อาจจะมีActivity เดียว หรือหลายๆ Activity และส่ิงที่อยู่ใน Activity นั้นจะเรียกว่า View ซึ่งมีอยู่หลายรูปแบบ เช่น button, text field, scroll bars, menu items, check boxes และอื่นๆ ๒. Service (Service Provider)  เป็นส่วนที่ไม่มีการแสดงผลแต ถูกเรียกใช้ให้ รันอยู่ในลักษณะของ background process โดย service นั้นอาจจะมีการกระทำ อะไรบางอย่าง เช่น ติดต่อรับส่งข้อมูลผ่านเครือข่าย หรือคำนวณค่าต่างๆ แล้วทำการส่งข้อมูลไปแสดงยัง Activity ก็ได้ หรือการเปิดเพลงในขณะที่เรากำลังทำงานบน แอพพลิเคชั่นอื่น ๓. Broadcast receiver (DataProvider)  คือ ตัวที่ใช้สำหรับคอยรับและตอบสนองต่อ เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดข้ึน เช่น เมื่อแบตเตอรี่ต่ำ ,การเปล่ียนภาษา, มีการโทรออก, มีข้อความเข้าและอื่นๆ ถึงแม้ broadcast receiver จะไม่มีส่วนของการแสดงผลแต่ก็สามารถที่จะเรียก Activity ข้ึนมาแสดงผลให้ผู้ใช้ทราบได้

วิธีการเปลี่ยนบัญชี gmail การลบบัญชี gmail สำหรับ android

การเปลี่ยน gmail สำหรับมือถือ android เป็นปัญหาชวนปวดหัวของเราหลายๆคน ที่เพิ่งจะเปลี่ยนมือถือ หรือไม่ต้องการใช้ gmail หลักของเราไปผูกกับมือถือ android ซึ่งมีความจำเป็นต้องมี gmail ไปผูกไว้ในเครื่องเสมอ    วันนี้ผมจะขอนำเสนอวิธีการในการแก้ gmail ที่ผูกไว้กับเครื่องออกมา โดยสามารถทำได้หลายวิธีตามแต่ความประสงค์ของผู้นำไปใช้ครับ (วิธีการ และผลกระทบย่อมต่างกันออกไปตามแต่ละวิธีครับ) 1.)  เป็นวิธีที่เป็นทางการที่สุดในการแก้ gmail ที่ผูกไว้คือ การทำ Factory Reset  ผลที่จะได้รับคือ เครื่องจะแก้ค่าต่างๆ กลับไปเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตของมันคือ ตอนที่มันออกมาจากโรงงาน gmail, app ต่างๆจะถูกลบไปหมด แน่นอน ข้อมูล รูปภาพใดๆ ที่มีในเครื่องก็จะหายไปหมดด้วย วิธีการ  :  ให้ไปที่   Menu  -->  Setting  -->  Privacy  -->  Factory data reset  รอสักครู่ทุกอย่างก็จะเรียบร้อย คำแนะนำ  :  ต้องทำการสำรองข้อมูล (backup data) ที่จำเป็นทั้งหมดไว้ก่อน เพราะจะถูกลบและเรียกคืนไม่ได้ 2.)  เป็นวิธีการที่ได้ผลกับแค่บางรุ่นเท่านั้น (โดยไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด) โดยใช้การสร้าง gmail ใหม่เข้าไปในเครื่องแล้วลบ gma