Skip to main content

การใช้สมองทั้งสองด้าน

   เป็นที่ทราบกันโดยแพร่หลายว่าคนเรามีสมองแค่ก้อนเดียว แต่มันมีสองซีก ซึ่งทำงานสอดประสานกัน แต่ก็มีความรับผิดชอบ หรือมีความสามารถหลักที่แต่ต่างกันอยู่ด้วย โดยคนแต่ล่ะคนก็จะมีความถนัดในการใช้สมองแต่ล่ะด้านที่แตกต่างกัน


ความรับผิดชอบ หรือความถนัดของสมองแต่ละซีกเป็นอย่างไร


สมองซีกซ้าย  จะมีความสามารถในการคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล สามารถดูเหตุการในรายละเอียดปรีกย่อย ความสามารถทางด้านภาษา ร่วมถึงการวางแผน การคิดแบบเป็นขั้นเป็นตอน โดยมีความสามารถที่จะคิดเป็นส่วนๆย่อยๆ มากกว่าจะเห็นภาพใหญ่เพียงภาพเดียว

สมองซีกขวา  จะมีความสามารถในด้านการคิดแบบสร้างสรรค์ การคิดแบบเป็นรูปภาพ ศิลปะต่างๆ ไปจนถึงการใช้สัญชาตญาณ และอารมย์เป็นใหญ่ โดยจะมีความสามารถในการมองภาพร่วม มากกว่าเป็นชิ้นย่อยๆ

   เพศชายกับเพศหญิงมีแนวโน้มที่จะใช้สมองซีกเดียวกัน หรือต่างกันหรือไม่ ?   ถึงแม้จะไม่มีการศึกษาอย่างแน่ชัด แต่เราสามารถดูแนวโน้มได้จากวิธีการในการจัดการปัญหา การตัดสินใจ โดยเพศหญิงจะมีแนวโน้มที่จะใช้อารมย์ และมีความคิดสร้างสรรค์ มากกว่า เพศชายที่มักจะคิดแบบเป็นเหตุผลเป็นหลัก ดังนั้นเราจึงอาจจะพูดได้ว่า เพศหญิงใช้สมองซีกขวามากกว่า และเพศชายใช้เหตุผลอันเป็นผลมากจากสมองซีกซ้าย

   ดังนั้นหากเราสามารถใช้สมองทั้งสองซีก เราก็จะสามารถดึงเอาความสามารถของสมองออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ (สามารถใช้หลักเหตุผล กับความคิดสร้างสรรค์ ได้อย่างสมดุล)


การฝีกใช้สมองทั้งสองซีก

การฝีกใช้สมองซีกซ้าย  เป็นการฝีกให้คิดแบบมีเหตุมีผล เป็นขั้นตอนเล็กๆ มีรายละเอียดมาก

  • ฝีกคิดแบบลงรายละเอียดมากๆ เช่นเวลาจะแก้ปัญหาอะไรก็ตาม พยายามที่จะหารายละเอียดให้มากที่สุด โดยพยายามที่จะไม่ข้ามรายละเอียดเหล่านั้นไปมองเฉพาะภาพรวม (พยายามลงรายละเอียดให้มากที่สุด แม้คุณจะรู้ภาพรวมอยู่แล้วก็ตาม)
  • ฝีกวางแผนการใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อฝีกการวางแผน การวางเป้าหมาย การบันทีกความคืบหน้า และแน่นอนว่าจะให้พยายามลงรายละเอียดให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้
  • เล่นกับตัวเลขให้มากขึ้น เพราะโดยมากแล้วคนที่คิดด้วยสมองซีกขวาเป็นหลัก จะมีปัญหาในการรับมือกับตัวเลขมาก ดังนั้นการฝีกเล่นกับตัวเลขจะช่วฝึกการใช้สมองซีกซ้าย
  • เล่นเกมที่จะต้องใช้ความคิดมากๆ เช่นการเล่นหมากรุก การเล่นโกะ เพื่อให้สมองต้องคิดแบบเป็นระบบ  
การฝีกใช้สมองซีกขวา  เป็นการฝีกให้คิดแบบมีความคิดสร้างสรรค์ มองเป็นภาพรวม
  • พยายามไม่คิดเฉพาะเหตุและผลเท่านั้น เช่นเวลาจะแก้ปัญหาอะไรก็ตาม พยายามที่จะคิดแบบภาพรวมให้มากขึ้น ใช้สัญชาตญาณมากขึ้น คือแม้จะมีข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์แบบ
  • ลองไม่วางแผนการใช้ชีวิตประจำวันดูบ้าง ลองปล่อยให้ชีวิตดำเนินไป โดยใช้สัญชาตญาณเป็นเข็มทิศดูบ้าง
  • หางานอดิเรกที่สงเสริมการคิดแบบสร้างสรรค์ เช่นการทำศิลปะ การวาดภาพ หรือแม้แต่การเขียนกลอน ที่จะช่วยฝีกการใช้สมองส่วนสร้างสรรค์ (คนที่คิดแบบหลักเหตุผลมากๆ มักจะขาดความสามารถด้านศิลปะ)
  • ฝีกการจดบันทึก โดยให้มีส่วนของรูปภาพให้มากขึ้น แทนที่จะใช้แต่ตัวหนังสือ ซึ่งเป็นตัวแทนของการลงรายละเอียด การใช้รูปประกอบโดยไม่ต้องลงรายละเอียดจะช่วยให้เราคิดแบบเป็นภาพรวมมากขึ้น
ขอให้ทุกท่านโชคดี และสนุกในการฝ๊กฝนการใช้สมองทั้งสองซีกนะครับ

ที่มา http://pendekd.blogspot.com/

Comments

Popular posts from this blog

หลักการ 5P ส่วนผสมทางการตลาด

หลักการ 5P ส่วนผสมทางการตลาด หลักการ 5P เป็นหลักการทางด้านการตลาด (จริงๆแล้วมันก็เป็นการขยาย 4P ที่ทุกคนรู้จักกันดีแล้วนั้นเอง) แต่มีการนำมาขยายความในส่วนต่างๆ ให้มากยิ่งขึ้น 1.)  Product / Service (ผลิตภัณฑ์ หรือบริการ)  :  สินค้าหรือบริการของคุณคืออะไร มุ่งตอบสนองความต้องการหรือช่วยแก้ปัญหาอะไร ทำไมผู้บริโภคถึงต้องการสินค้าของคุณ 2.)  Person (ใคร)  กลุ่มลูกค้าของคุณคือใคร มีลักษณะเฉพาะอย่างไร โดยควรระบุรายละเอียดให้ได้มากที่สุด เช่น อายุ เพศ กำลังซื้อ เพื่อให้สามารถระบุเป้าหมายให้ได้ชัดเจนที่สุด 3.)  Price (ราคา)  มีการกำหนดราคาของสินค้าและบริการไว้อย่างไร มีความสัมพันธ์กับหัวข้อที่ 1 และ 2 หรือไม่อย่างไร และคุณวางตำแหน่งสินค้าของคุณไว้ ณ ตำแหน่งไหนของตลาด เป็นของ แบบกลางๆจะได้รับความสนใจหรือไม่ หรือควรเป็นสิ่งที่มีตำแหน่งทางการตลาดที่ชัดเจนเช่น ดีที่สุด ใหญ่ที่สุด เล็กที่สุด เร็วที่สุด เป็นต้น 4.)  Place (สถานที่)  กลุ่มลูกค้าของคุณจะสามารถเข้าถึง สินค้าและบริการของคุณได้อย่างไร ทางไหน มีความเหมาะสมกับหัวข้อที่ 2 และ 3 หรือไม่อย่างไร 5.)  Promotion (ส่งเสริมกา

ส่วนประกอบของ android แอพพลิเคชัน (Android Application Component)

    ส่วนประกอบของ แอพพลิเคชัน (Application Component) สามารถแบ่งออกได้เป็น ๔ ประเภทดังนี้ ๑. Activity (User Interface)  คือ สิ่งท่ีใช้ในการแสดงผลออกมาเพื่อให้ผู้ใช้งานได้เห็น และได้ใช้งานโดย แต่ละแอปพลิเคชนััน อาจจะมีActivity เดียว หรือหลายๆ Activity และส่ิงที่อยู่ใน Activity นั้นจะเรียกว่า View ซึ่งมีอยู่หลายรูปแบบ เช่น button, text field, scroll bars, menu items, check boxes และอื่นๆ ๒. Service (Service Provider)  เป็นส่วนที่ไม่มีการแสดงผลแต ถูกเรียกใช้ให้ รันอยู่ในลักษณะของ background process โดย service นั้นอาจจะมีการกระทำ อะไรบางอย่าง เช่น ติดต่อรับส่งข้อมูลผ่านเครือข่าย หรือคำนวณค่าต่างๆ แล้วทำการส่งข้อมูลไปแสดงยัง Activity ก็ได้ หรือการเปิดเพลงในขณะที่เรากำลังทำงานบน แอพพลิเคชั่นอื่น ๓. Broadcast receiver (DataProvider)  คือ ตัวที่ใช้สำหรับคอยรับและตอบสนองต่อ เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดข้ึน เช่น เมื่อแบตเตอรี่ต่ำ ,การเปล่ียนภาษา, มีการโทรออก, มีข้อความเข้าและอื่นๆ ถึงแม้ broadcast receiver จะไม่มีส่วนของการแสดงผลแต่ก็สามารถที่จะเรียก Activity ข้ึนมาแสดงผลให้ผู้ใช้ทราบได้

วิธีการเปลี่ยนบัญชี gmail การลบบัญชี gmail สำหรับ android

การเปลี่ยน gmail สำหรับมือถือ android เป็นปัญหาชวนปวดหัวของเราหลายๆคน ที่เพิ่งจะเปลี่ยนมือถือ หรือไม่ต้องการใช้ gmail หลักของเราไปผูกกับมือถือ android ซึ่งมีความจำเป็นต้องมี gmail ไปผูกไว้ในเครื่องเสมอ    วันนี้ผมจะขอนำเสนอวิธีการในการแก้ gmail ที่ผูกไว้กับเครื่องออกมา โดยสามารถทำได้หลายวิธีตามแต่ความประสงค์ของผู้นำไปใช้ครับ (วิธีการ และผลกระทบย่อมต่างกันออกไปตามแต่ละวิธีครับ) 1.)  เป็นวิธีที่เป็นทางการที่สุดในการแก้ gmail ที่ผูกไว้คือ การทำ Factory Reset  ผลที่จะได้รับคือ เครื่องจะแก้ค่าต่างๆ กลับไปเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตของมันคือ ตอนที่มันออกมาจากโรงงาน gmail, app ต่างๆจะถูกลบไปหมด แน่นอน ข้อมูล รูปภาพใดๆ ที่มีในเครื่องก็จะหายไปหมดด้วย วิธีการ  :  ให้ไปที่   Menu  -->  Setting  -->  Privacy  -->  Factory data reset  รอสักครู่ทุกอย่างก็จะเรียบร้อย คำแนะนำ  :  ต้องทำการสำรองข้อมูล (backup data) ที่จำเป็นทั้งหมดไว้ก่อน เพราะจะถูกลบและเรียกคืนไม่ได้ 2.)  เป็นวิธีการที่ได้ผลกับแค่บางรุ่นเท่านั้น (โดยไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด) โดยใช้การสร้าง gmail ใหม่เข้าไปในเครื่องแล้วลบ gma