เป็นที่ทราบกันโดยแพร่หลายว่าคนเรามีสมองแค่ก้อนเดียว แต่มันมีสองซีก ซึ่งทำงานสอดประสานกัน แต่ก็มีความรับผิดชอบ หรือมีความสามารถหลักที่แต่ต่างกันอยู่ด้วย โดยคนแต่ล่ะคนก็จะมีความถนัดในการใช้สมองแต่ล่ะด้านที่แตกต่างกัน
สมองซีกซ้าย จะมีความสามารถในการคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล สามารถดูเหตุการในรายละเอียดปรีกย่อย ความสามารถทางด้านภาษา ร่วมถึงการวางแผน การคิดแบบเป็นขั้นเป็นตอน โดยมีความสามารถที่จะคิดเป็นส่วนๆย่อยๆ มากกว่าจะเห็นภาพใหญ่เพียงภาพเดียว
สมองซีกขวา จะมีความสามารถในด้านการคิดแบบสร้างสรรค์ การคิดแบบเป็นรูปภาพ ศิลปะต่างๆ ไปจนถึงการใช้สัญชาตญาณ และอารมย์เป็นใหญ่ โดยจะมีความสามารถในการมองภาพร่วม มากกว่าเป็นชิ้นย่อยๆ
เพศชายกับเพศหญิงมีแนวโน้มที่จะใช้สมองซีกเดียวกัน หรือต่างกันหรือไม่ ? ถึงแม้จะไม่มีการศึกษาอย่างแน่ชัด แต่เราสามารถดูแนวโน้มได้จากวิธีการในการจัดการปัญหา การตัดสินใจ โดยเพศหญิงจะมีแนวโน้มที่จะใช้อารมย์ และมีความคิดสร้างสรรค์ มากกว่า เพศชายที่มักจะคิดแบบเป็นเหตุผลเป็นหลัก ดังนั้นเราจึงอาจจะพูดได้ว่า เพศหญิงใช้สมองซีกขวามากกว่า และเพศชายใช้เหตุผลอันเป็นผลมากจากสมองซีกซ้าย
ดังนั้นหากเราสามารถใช้สมองทั้งสองซีก เราก็จะสามารถดึงเอาความสามารถของสมองออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ (สามารถใช้หลักเหตุผล กับความคิดสร้างสรรค์ ได้อย่างสมดุล)
การฝีกใช้สมองซีกซ้าย เป็นการฝีกให้คิดแบบมีเหตุมีผล เป็นขั้นตอนเล็กๆ มีรายละเอียดมาก
ความรับผิดชอบ หรือความถนัดของสมองแต่ละซีกเป็นอย่างไร
สมองซีกซ้าย จะมีความสามารถในการคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล สามารถดูเหตุการในรายละเอียดปรีกย่อย ความสามารถทางด้านภาษา ร่วมถึงการวางแผน การคิดแบบเป็นขั้นเป็นตอน โดยมีความสามารถที่จะคิดเป็นส่วนๆย่อยๆ มากกว่าจะเห็นภาพใหญ่เพียงภาพเดียว
สมองซีกขวา จะมีความสามารถในด้านการคิดแบบสร้างสรรค์ การคิดแบบเป็นรูปภาพ ศิลปะต่างๆ ไปจนถึงการใช้สัญชาตญาณ และอารมย์เป็นใหญ่ โดยจะมีความสามารถในการมองภาพร่วม มากกว่าเป็นชิ้นย่อยๆ
เพศชายกับเพศหญิงมีแนวโน้มที่จะใช้สมองซีกเดียวกัน หรือต่างกันหรือไม่ ? ถึงแม้จะไม่มีการศึกษาอย่างแน่ชัด แต่เราสามารถดูแนวโน้มได้จากวิธีการในการจัดการปัญหา การตัดสินใจ โดยเพศหญิงจะมีแนวโน้มที่จะใช้อารมย์ และมีความคิดสร้างสรรค์ มากกว่า เพศชายที่มักจะคิดแบบเป็นเหตุผลเป็นหลัก ดังนั้นเราจึงอาจจะพูดได้ว่า เพศหญิงใช้สมองซีกขวามากกว่า และเพศชายใช้เหตุผลอันเป็นผลมากจากสมองซีกซ้าย
ดังนั้นหากเราสามารถใช้สมองทั้งสองซีก เราก็จะสามารถดึงเอาความสามารถของสมองออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ (สามารถใช้หลักเหตุผล กับความคิดสร้างสรรค์ ได้อย่างสมดุล)
การฝีกใช้สมองทั้งสองซีก
การฝีกใช้สมองซีกซ้าย เป็นการฝีกให้คิดแบบมีเหตุมีผล เป็นขั้นตอนเล็กๆ มีรายละเอียดมาก- ฝีกคิดแบบลงรายละเอียดมากๆ เช่นเวลาจะแก้ปัญหาอะไรก็ตาม พยายามที่จะหารายละเอียดให้มากที่สุด โดยพยายามที่จะไม่ข้ามรายละเอียดเหล่านั้นไปมองเฉพาะภาพรวม (พยายามลงรายละเอียดให้มากที่สุด แม้คุณจะรู้ภาพรวมอยู่แล้วก็ตาม)
- ฝีกวางแผนการใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อฝีกการวางแผน การวางเป้าหมาย การบันทีกความคืบหน้า และแน่นอนว่าจะให้พยายามลงรายละเอียดให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้
- เล่นกับตัวเลขให้มากขึ้น เพราะโดยมากแล้วคนที่คิดด้วยสมองซีกขวาเป็นหลัก จะมีปัญหาในการรับมือกับตัวเลขมาก ดังนั้นการฝีกเล่นกับตัวเลขจะช่วฝึกการใช้สมองซีกซ้าย
- เล่นเกมที่จะต้องใช้ความคิดมากๆ เช่นการเล่นหมากรุก การเล่นโกะ เพื่อให้สมองต้องคิดแบบเป็นระบบ
- พยายามไม่คิดเฉพาะเหตุและผลเท่านั้น เช่นเวลาจะแก้ปัญหาอะไรก็ตาม พยายามที่จะคิดแบบภาพรวมให้มากขึ้น ใช้สัญชาตญาณมากขึ้น คือแม้จะมีข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์แบบ
- ลองไม่วางแผนการใช้ชีวิตประจำวันดูบ้าง ลองปล่อยให้ชีวิตดำเนินไป โดยใช้สัญชาตญาณเป็นเข็มทิศดูบ้าง
- หางานอดิเรกที่สงเสริมการคิดแบบสร้างสรรค์ เช่นการทำศิลปะ การวาดภาพ หรือแม้แต่การเขียนกลอน ที่จะช่วยฝีกการใช้สมองส่วนสร้างสรรค์ (คนที่คิดแบบหลักเหตุผลมากๆ มักจะขาดความสามารถด้านศิลปะ)
- ฝีกการจดบันทึก โดยให้มีส่วนของรูปภาพให้มากขึ้น แทนที่จะใช้แต่ตัวหนังสือ ซึ่งเป็นตัวแทนของการลงรายละเอียด การใช้รูปประกอบโดยไม่ต้องลงรายละเอียดจะช่วยให้เราคิดแบบเป็นภาพรวมมากขึ้น
Comments
Post a Comment