Skip to main content

เคล็ดลับ 5 ข้อ จูงสุนัขอย่างปลอดภัย

เคล็ดลับจูงสุนัขอย่างปลอดภัย



            เรื่องจูงสุนัขนั้นหลายท่านคงคิดว่าเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย ใคร ๆ ก็น่าจะทำได้อย่างไม่มีปัญหา แต่เชื่อหรือไม่ว่าจากการสังเกตของเคสที่พาสุนัขมารักษาที่โรงพยาบาลนั้น พบว่ามีเพียงไม่เกิน ๒๐% ที่สามารถจูงสุนัขมาได้อย่างราบรื่น นอกนั้น จะอุ้มใส่กระเป๋ามาโดยเฉพาะหากเป็นสุนัขขนาดเล็ก หรือขนาดกลาง

                สำหรับสุนัขโตนั้น ส่วนหนึ่งก็ไม่ได้จูงมา แต่กลับเป็น”ลาก” มาแทน ซึ่งบางครั้งก็เกิดปัญหา”หมาหลุด” ขึ้น ต้องวิ่งไล่จับกันอย่างโกลาหล เคราะห์ดีก็จับได้ แต่เคราะห์ร้ายก็มี ตั้งแต่โดนรถชนแบบเล็กน้อยคือ”เฉี่ยวชน” จนถึงแบบร้ายแรงคือ”ถูกรถทับ” หรือพลัดหลงหายไปเลยก็มี และที่สำคัญไปกว่านั้นโดยเฉพาะคนกทม.ก็คือ กรุงเทพมหานครได้ออกกฎควบคุมการเลี้ยงสุนัขในเขตเมืองหลวงว่า ในกรณีเจ้าของสุนัขหรือผู้ครอบครองสุนัขรายใดจะพาสุนัขออกนอกบ้าน เจ้าของสุนัขดังกล่าวจะต้องใช้สายจูงควบคุมสุนัขตัวนั้นตลอดเวลาที่สุนัขอยู่นอกบ้าน นั่นคือการจูงสุนัขถือเป็นกฎหมาย หากฝ่าฝืนก็จะมีความผิด ถูกปรับเงินด้วย

                ถึงแม้การจูงสุนัขจะเป็นกฎหมายแต่โดยจริงแล้ว การจูงสุนัขคือ “กฎของความปลอดภัย” ของตัวสุนัขของเราเองจากอุบัติภัยต่าง ๆ ที่ว่ามาแล้วยังถือเป็นการป้องกันอุบัติภัยให้แก่คนอื่น ๆ  จากสุนัขของเราอีกด้วย

                ดังนั้น เลี้ยงสัตว์อย่างมี e.q. ขอเสนอเรื่องราวของการจูงสุนัขอย่างถูกวิธี ซึ่งไม่ได้อยากเย็นอะไรเลย ซึ่งมีเคล็ดลับในการจูงสุนัขอย่างปลอดภัย ๕ ข้อ ดังนี้


เคล็ดลับข้อที่ ๑ : ฉลาดเลือกสายจูงให้ถูกวิธี
                
       สายจูงสุนัขที่ถูกต้องควรทำจากหนังหรือไนล่อน เพราะจะได้ไม่เจ็บมือเวลาจูง หลายคนมักใช้โซ่ล่ามสุนัขมาแทนสายจูงก็จะทำให้รู้สึกเจ็บมือ โดยเฉพาะเวลาสุนัขวิ่งก็จะทำให้ต้องออกแรงจับโซ่จูง ก็ยิ่งเจ็บมือใหญ่ที่สำคัญคือ สายจูงจะต้องแข็งแรงเพียงพอที่จะควบคุมสุนัขได้ ไม่ใช่สุนัขเบ้อเริ่มเทิ่ม แต่ใช้สายจูงลูกสุนัขมาจูง ก็อาจขาดได้


เคล็ดลับข้อที่ ๒ : ใช้ปลอกคอสำหรับจูงโดยเฉพาะ
                
     โดยทั่ว ๆ ไปแล้ว ปลอกคอที่เรานิยมสวมใส่ให้สุนัขนั้น ไม่ได้มีไว้จูงแต่มีไว้สำหรับแขวนป้ายชื่อหรือเหรียญกันบ้าเท่านั้น ดังนั้น จึงขอเสนอให้ทุกท่านใช้ปลอกคอสำหรับจูงโดยเฉพาะ ซึ่งทำจากโซ่ที่สามารถเลื่อนขึ้นลงได้ บางทีเรียก “โซ่คอ” หรือ “โช้คเชน” (CHOKE CHAIN/TRAINING COLLAR)  โดยความยาวของโซ่คอนั้น เมื่อสวมใส่แล้วควรมีความยาวของปลายโซ่เมื่อดึงตึงไม่ต่ำกว่า ๓ นิ้ว และควรมีน้ำหนักเบาไม่หนักเกินไป โดยเฉพาะถ้าใช้จูงลูกสุนัขหรือหมาพันธุ์เล็ก ๆ


เคล็ดลับที่ ๓ : ใส่โซ่คออย่างถูกวิธี
               
     เมื่อได้อุปกรณ์การจูงครบแล้ว เคล็ดลับข้อต่อมาก็คือ การใส่โซ่คออย่างถูกวิธีโดยโซ่คอที่ใช้จะต้องเลื่อนลงได้เมื่อไม่ได้ดึง โซ่คอจะเป็นรูปตัว P เหตุที่ต้องใส่เป็นรูปตัว P ก็เพื่อให้สามารถควบคุมสุนัขได้ ในกรณีที่สุนัขวิ่งเตลิดไป โซ่คอนี้ก็จะรูดกระชับเข้ากับตัวสุนัขทำให้ไม่หลุดหายและจะรูดลง เมื่อสุนัขอยู่เรียบร้อยในสายจูง ที่สำคัญคือ โซ่คอนี้จะใช้สำหรับเวลามีภารกิจจูงสุนัขหรือฝึกสุนัขเท่านั้น ถ้าอยู่บ้านเฉย ๆ ก็ไม่ต้องใส่เด็ดขาด


เคล็ดลับข้อที่ ๔ : จูงหมาต้องฝึก
                
       ไม่ใช่สุนัขทุกตัวจะเชื่องกับสายจูง หรือเดินไปไหนมาไหนภายใต้สายจูงได้เลยเราจำเป็นต้องฝึกก่อน เริ่มจากการฝึกจูงข้อแรก คือห้ามสุนัขเดินแซงหน้าเราเด็ดขาด จะต้องเดินข้าง ๆ เราเท่านั้น ซึ่งถ้าสุนัขเดินหรือวิ่งแซงหน้าไปก็จะต้องดึงรั้งสายจูงเข้ามา หรือถ้าสุนัขไม่ยอมเดินเคียงคู่กับเราก็ต้องจัดการเช่นกัน แต่ขอย้ำว่าไม่ควรใช้ความรุนแรง แต่หันมาใช้ความนุ่มนวลหรือขนมสุนัขเป็นตัวช่วย(รายละเอียดเพิ่มเติมให้ปรึกษาจากครูฝึกสุนัขทั้งหลายนะครับ)


เคล็ดลับข้อที่ ๕  :  เปลี่ยนมาใช้สายรัดอกถ้าจำเป็น

       ในบางกรณี โซ่คออาจไม่เหมาะกับสุนัขของเรา ก็ขอแนะนำให้ใช้ “สายรัดอก” มาสวมใส่ให้สุนัขและใช้สายจูงล่ามกับสายรัดอกแทนก็ได้


ที่มา http://www.yespetshop.com

Comments

Popular posts from this blog

ส่วนประกอบของ android แอพพลิเคชัน (Android Application Component)

    ส่วนประกอบของ แอพพลิเคชัน (Application Component) สามารถแบ่งออกได้เป็น ๔ ประเภทดังนี้ ๑. Activity (User Interface)  คือ สิ่งท่ีใช้ในการแสดงผลออกมาเพื่อให้ผู้ใช้งานได้เห็น และได้ใช้งานโดย แต่ละแอปพลิเคชนััน อาจจะมีActivity เดียว หรือหลายๆ Activity และส่ิงที่อยู่ใน Activity นั้นจะเรียกว่า View ซึ่งมีอยู่หลายรูปแบบ เช่น button, text field, scroll bars, menu items, check boxes และอื่นๆ ๒. Service (Service Provider)  เป็นส่วนที่ไม่มีการแสดงผลแต ถูกเรียกใช้ให้ รันอยู่ในลักษณะของ background process โดย service นั้นอาจจะมีการกระทำ อะไรบางอย่าง เช่น ติดต่อรับส่งข้อมูลผ่านเครือข่าย หรือคำนวณค่าต่างๆ แล้วทำการส่งข้อมูลไปแสดงยัง Activity ก็ได้ หรือการเปิดเพลงในขณะที่เรากำลังทำงานบน แอพพลิเคชั่นอื่น ๓. Broadcast receiver (DataProvider)  คือ ตัวที่ใช้สำหรับคอยรับและตอบสนองต่อ เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดข้ึน เช่น เมื่อแบตเตอรี่ต่ำ ,การเปล่ียนภาษา, มีการโทรออก, มีข้อความเข้าและอื่นๆ ถึงแม้ broadcast receiver จะไม่มีส่วนของการแสดงผลแต่ก็สามารถที่จะเรียก...

หลักการ 5P ส่วนผสมทางการตลาด

หลักการ 5P ส่วนผสมทางการตลาด หลักการ 5P เป็นหลักการทางด้านการตลาด (จริงๆแล้วมันก็เป็นการขยาย 4P ที่ทุกคนรู้จักกันดีแล้วนั้นเอง) แต่มีการนำมาขยายความในส่วนต่างๆ ให้มากยิ่งขึ้น 1.)  Product / Service (ผลิตภัณฑ์ หรือบริการ)  :  สินค้าหรือบริการของคุณคืออะไร มุ่งตอบสนองความต้องการหรือช่วยแก้ปัญหาอะไร ทำไมผู้บริโภคถึงต้องการสินค้าของคุณ 2.)  Person (ใคร)  กลุ่มลูกค้าของคุณคือใคร มีลักษณะเฉพาะอย่างไร โดยควรระบุรายละเอียดให้ได้มากที่สุด เช่น อายุ เพศ กำลังซื้อ เพื่อให้สามารถระบุเป้าหมายให้ได้ชัดเจนที่สุด 3.)  Price (ราคา)  มีการกำหนดราคาของสินค้าและบริการไว้อย่างไร มีความสัมพันธ์กับหัวข้อที่ 1 และ 2 หรือไม่อย่างไร และคุณวางตำแหน่งสินค้าของคุณไว้ ณ ตำแหน่งไหนของตลาด เป็นของ แบบกลางๆจะได้รับความสนใจหรือไม่ หรือควรเป็นสิ่งที่มีตำแหน่งทางการตลาดที่ชัดเจนเช่น ดีที่สุด ใหญ่ที่สุด เล็กที่สุด เร็วที่สุด เป็นต้น 4.)  Place (สถานที่)  กลุ่มลูกค้าของคุณจะสามารถเข้าถึง สินค้าและบริการของคุณได้อย่างไร ทางไหน มีความเหมาะสมกับหัวข้อที่ 2 และ 3...

แผนภาพวาดให้เป็น เก่งนำเสนอ

ผู้เขียน  :  Yamda Masao แปลโดย ประวัติ เพียรเจริญ ISBN  :  978-974-443-460-9 ปีที่พิมพ์ครั้งแรก  :  2012 จัดพิมพ์โดย  :  สำนักพิมพ์ ส.ส.ท. จำนวนหน้า  :  272 หน้า ราคา  :  220 บาท สรุปเนื้อหาสำคัญ    หนังสือเล่มนี้ไม่ได้เป็นหนังสือที่สอนวิธีการวาดภาพ แต่เป็นหนังสือที่สอนให้ใช้รูปภาพ (หมายถึง แผนภูมิ, กราฟ และตารางต่างๆ) เพื่อใช้ในการนำเสนอสิ่งต่างๆ ความคิดเห็น ข้อมูล ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งหวังให้คนอ่านสามารถทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้น เพราะความคิดของแต่ล่ะคนไม่เหมือนกัน การนำเสนอความคิดด้วยภาพจึงมีความสำคัญมาก  "ความคิดถึงแม้จะดีแค่ไหน แต่ถ้าไม่สามารถอธิบายให้คนอื่นเข้าใจได้ ก็ไร้ประโยชน์"    โดยมีการแยกสัดส่วนของเนื้อหาได้ดี มีการสรุปเป็นหัวข้อๆ ให้เข้าใจได้ง่าย โดยแบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม คือ  สารที่ต้องการสื่อออกไป เป็นการกำหนดสิ่งที่ต้องการจะถ่ายทอดออกไปให้ชัดเจน และเรียยเรียงอย่างมีระบบ รูปแบบ หรือกรอบความคิดที่จะใช้สำหรับสื่อสาร "สาร" ออกไป เช่นเป็นตารางข้อมูล เ...