ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าคุณ Julie Revelant นี้เป็นใครก็ไม่รู้ วันก่อนไปเจอบทความของเจ๊เข้าเห็นว่าหัวข้อมันดูเร้าใจดี (10 strategies to avoid rising a spoiled brat) เลยขอเอามาแบ่งปันกันนะครับ
๑. อย่าทำอะไรๆ ให้เด็กง่ายเกิ๊น
สิ่งนี้ชัดเจนว่าเกิดขึ้นเพราะความรัก เรากลัวว่าลูกเราจะลำบาก จนยอมเอาตัวไปเป็นคนรับใช้ ค่อยแก้ปัญหาทุกสิ่งอย่างให้ลูก จนลูกก็ชักไม่แน่ใจแล้วว่า จริงๆเราเป็นพ่อแม่ที่เขาต้องเชื่อฟัง หรือเป็นคนรับใช้ค่อยบริการตามที่เขาร้องขอกันแน่
๒. กำหนดขอบเขตในเรื่องต่างๆ
เป็นธรรมชาติของมนุษย์ (ไม่ใช่แค่เด็ก) ที่มีสัญชาตญาณในการทดสอบ ทดลอง ดังนั้นถึงแม้เราจะกำหนดขอบเขตในเรื่องต่างๆแล้ว แต่ลูกของเราก็จะทำการทดสอบตัวพ่อแม่ ผู้ตั้งกฏอยู่เสมอ ดังนั้นหากเราต้องการให้ลูกของเราเข้าใจในเรื่องกฏเกณฑ์ต่างๆ และอยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคมได้ เราต้องมีความหนักแน่นในกฏต่างๆ (ไม่เช่นนั้นเมื่อลูกเราโตขึ้นไปแล้ว ก็จะมีความคิดที่ว่ากฏนั้นมันช่างไร้สาระเสียจริงๆ)
๓. ให้ความสำคัญกับเรื่องที่สำคัญ
แน่นอนว่าเราไม่อยากไปกำหนดกรอบให้ลูกเราไปเสียจนหมดทุกเรื่อง แต่อย่างไรก็ตามในเรื่องที่สำคัญ พ่อแม่จะต้องให้ความสำคัญแบบที่ไม่สามารถจะต่อรองอะไรได้เลย พ่อแม่จะต้องบอกให้ชัดเจนไปเลยว่าเรื่องไหนที่ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ และจะไม่สามารถยอมรับได้ (อย่าปล่อยให้ความสมบูรณ์แบบมาหลอนคุณ เพราะถ้าคุณเอาเรื่องเล็กๆน้อยๆ มาทำให้เป็นเรื่องสำคัญไปซะหมด สุดท้ายทุกอย่างมันก็มีค่าเท่ากัน คือ "ไม่มีอะไรเลยที่สำคัญ")
๔. เข้าใจอารมย์ของลูกด้วย
มนุษย์ทุกคนล้วนอยากให้คนอื่นเข้าใจตัวเอง เด็กๆก็เช่นเดียวกัน เช่นตอนที่ลูกอาจจะอารมย์เสีย ผิดหวังเรื่องอะไรก็ตาม พ่อแม่จะต้องแสดงความเข้าใจในตัวเขา แต่ก็กลับไปที่ข้อ ๒ คือทุกอย่างจะต้องมีขอบเขต การกระทำที่เกินกว่าขอบเขตที่เหมาะสมเป็นสิ่งที่ไม่ควรได้รับการยอมรับ
๕. อย่าโอ้ (ยอม) เด็กง่ายๆ
มันเป็นเรื่องที่ยากสำหรับพ่อแม่ทุกคน ที่จะทนอยู่เฉยในขณะที่ลูกของตัวเองกำลังร้องไห้งอแง (เช่นตอนอยากให้ซื้อของเล่นให้) โดยเฉพาะเมื่อต้องอยู่ในที่ชุมชน ผู้คนเริ่มจะมองคุณด้วยสายตาแย่ๆ แต่หากคุณยอมให้กับลูกคุณในครั้งนี้ คุณกำลังสอนอะไรให้กับลูกของคุณ คุณกำลังบอกเขาด้วยการกระทำว่า "ถ้าเธออยากจะได้อะไร ก็จงทำให้แย่ๆ แบบนี้ไปเรื่อยๆ นะ" จงอดทนจนลูกของคุณเข้าใจว่า การกระทำแย่ๆที่เขาทำนั้น มันไม่สามารถช่วยให้เขาได้อะไรก็ตามที่เขาต้องการ
๖. ทำเป็นตัวอย่างให้ลูกทำตาม
การสอนด้วยคำพูดสวยหรูนั้นมันง่ายมาก ใครๆก็สามารถพูดได้ว่าต้องทำอย่างนั้น ต้องทำอย่างนี้ ลูกอาจจะฟังคุณ แต่อาจจะไม่เข้าใจอย่างชัดแจ้งว่าต้องทำอย่างไร แต่ถ้าตัวคุณเองทำตัวให้ลูกดูเป็นตัวอย่าง เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้วลูกคุณจะสามารถเข้าใจได้อย่างชัดเจน และจะทำตามที่คุณสอนได้ ลองนึกดูจะเป็นอย่างไรเมื่อคุณสอนลูกว่าอย่าสูบบุหรี่นะมันไม่ดีต่อสุขภาพ ในขณะที่คุณกำลังสูบบุหรี่อยู่
๗. ห้ามให้ไว
หากมีพฤติกรรมใดของลูกที่ดูแล้วไม่น่าสบายใจ หรืออาจจะเกิดอันตรายได้ให้ลงมือห้ามให้ไว อย่าปล่อยให้เวลาผ่านเลยไป เพราะของพวกนี้หากเป็นนิสัยแล้ว จะแก้ได้ยาก
๘. สอนให้ลูกรู้จักแบ่งปัน
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก เพราะเราในฐานะพ่อแม่จะต้องระวังไม่ให้การสอนให้รู้จักแบ่งปัน กลายไปเป็นปมในความรู้สึกของลูก ด้วยการไปบังคับให้เขาต้องแบ่งปัน สำหรับลูกแล้วมันอาจจะเหมือนกับการถูกลงโทษก็ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นเราจะต้องให้เขาแบ่งปันด้วยวิธีของเขา ด้วยความเต็มใจของเขาเอง
๙. เป็นพ่อแม่ที่มีความมั่นใจ
ไม่ว่าใครจะว่าเราว่าอย่างไรเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกของเรา ก็ขอให้เรามีความมั่นใจในสิ่งที่เราต้องการสอนให้กับลูกของเรา มากกว่าแค่ต้องการให้เขามีความสุขสั้นๆในตอนนี้ แล้วไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีปัญหาไปตลอดชึวิตของเขา มั่นใจไว้ สู้ สู้
๑๐. พักผ่อนบ้าง (พ่อแม่นะ)
มันเป็นเรื่องปกติที่พ่อแม่จะรู้สึกหมดแรง เมื่อต้องสู้รบกับพฤติกรรมโหดๆ ของลูก ดังนั้นเมื่อไรที่คุณเหนื่อยจนอยากจะยอมแพ้ ขอให้คุณหาเวลาหยุดพัก ชาร์จพลังให้ตัวเอง มีสัทธากับตัวเอง นึกถึงอนาคตของลูกเอาไว้ แล้วกลับมาสั่งสอน เลี้ยงดูลูกของเราให้โตขึ้นเป็นคนที่มีความสุข
ใครไม่เคยเลี้ยงลูกเองไม่รู้ (แค่มีลูกอย่างเดียวไม่พอ ต้องเลี้ยงเองด้วยถึงจะซึ้ง)
Comments
Post a Comment