What I See, What I Do!

   เคยสังเกตุบางมั้ยครับว่าคำศัพท์บางคำในภาษาอังกฤษ เวลาพูด หรือฟังแล้วจะรู้สึกว่ามันแปลกๆ ไม่ค่อยจะเป็นภาษาอังกฤษเท่าไหร่ นั้นเป็นเพราะว่ามันมีคำบางคำจริงๆ ที่ภาษาอังกฤษก็ยืม หรือขโมยไปใช้จากภาษาอื่นๆ    วันนี้เราจะยกตัวอย่างคำภาษาอังกฤษที่ยืมมาจากภาษาญี่ปุ่น 布団　（Ｆｕｔｏｎ） :  โซฟาที่ปรับเป็นที่นอนได้ カラオケ　（Ｋａｒａｏｋｅ）  :  ตรงตัวเลยครับ คาราโอเกะ (เราก็ยืมคำของญี่ปุ่นมาใช้ตรงๆเลยเหมือนกัน 少し　（Ｓｕｋｏｓｈｉ）  :  อีกเล็กน้อย นิดเดียว หน่อยเดียว 津波　（Ｔｓｕｎａｍｉ）  :  คำนี้ภาษาไทย กับอังกฤษก็ยืมมาใช้ตรงๆเลยจากภาษาญี่ปุ่น ซึนามิ คลื่นยักย์ ที่มา rocketnews24.com

คำถาม  :  เราจะต้องมีถนนมากเท่าไหร่ จึงจะเพียงพอสำหรับให้คน 72 คนเดินทาง ความจริงแล้วคำตอบ สำหรับคำถามนี้ขึ้นอยู่กับว่า คน 72 คนนั้นใช้วิธีการใดในการเดินทาง ถ้าเดินทางโดยจักรยาน ถ้าเดินทางโดยใช้รถเมล์ (ขนส่งมวลชน) ถ้าเดินทางโดยใช้รถส่วนตัว สรุปว่า ถ้าเราทุกคนใช้การเดินทางโดยรถส่วนตัว มีถนนเท่าไหร่ก็คงไม่พอใช้นะครับ ทางออกคือ พยายามพัฒนาการขนส่งมวลชนให้มันดีขึ้นนะครับ (เพราะถ้าต้องเดินทางไกลๆ จะให้จักรยานไปก็คงไม่ไหวมั้งครับ) ที่มา http://news.distractify.com/

   สมองด้านขวา และ สมองด้านซ้ายมีความแตกต่างกันบ้างในเรื่องของหน้าที่ และความสามารถ โดยสมองแต่ล่ะด้าน ดูเหมือนจะมีความถนัดไปกันคนล่ะอย่าง เก่งกันไปคนล่ะด้าน     สมองด้านขวา มีแนวโน้มที่จะจัดการกับข้อมูลแบบเป็นระบบ เป็นระเบียบ ชอบลงตารางเวลา สามารถที่จะจดจำได้ดีผ่านทางการทำซ้ำๆ ที่มีรูปแบบเฉพาะ มักจะชอบทำอะไรด้วยตัวเองคนเดียว สามารถเข้าใจเรื่องเกี่ยวกับตัวเลขได้ดี ชอบทำการประเมิน     ในขณะที่สมองด้านซ้าย มีแนวโน้มที่จะจัดการกับข้อมูลแบบเป็นรูปภาพ ไม่ค่อยเน้นความเป็นระเบียบ หรือตารางเวลามากนัก มักจดจำเรื่องเกี่ยวกับรูปภาพ สี ได้ดี และมีอารมย์เข้ามาเกี่ยวข้องมากกว่า ไม่ค่อยมีการวางแผนมากนัก และมักจะสลับสิ่งทีทำไปมาตามอารมย์ และแทบไม่เข้าใจในเรื่องตัวเลขเอาเสียเลย การศึกษาเกี่ยวกับสมอง    ในปี คศ 1981 Dr.Roger Sperry ได้รับรางวัลโนเบิลจากการวิจัยเกี่ยวกับการทำงานของสมอง ที่ ณ เวลานั้นเราแทบไม่มีความรู้อะไรเลยเกี่ยวกับการทำงานของสมองทั้งสองด้าน ในเวลาต่อมาการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการทำงานของสมองมากขึ้น และทำให้เราเข้าใจการทำงานของสมองมากขึ้นตา...

   เคยสังเกตุมั้ยว่า ตัวสัตว์ประหลาดยอดนิยมอย่าง ก๊อตซีล่า (Godzilla) มันมีขนานโตขึ้นเรื่อย นับตั้งแต่ที่มันเคยปรากฏตัวขึ้นมาในช่วงปี 1954 มันมีขนาดประมาณ 50 เมตร     แต่การปรากฏตัวครั้งล่าสุด ในหนัง Godzilla (2014) ที่เปิดตัวกลางเดือนพฤษภาคม โดยมีคะแนน IMDb rating 8.8/10 ( ตัวอย่างหนัง ) นั้น เจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้มีความสูงถึง 150 เมตร (สูงกว่าตัวต้นฉบับถึง 3 เท่า) ข้อสันนิษฐาน  :   เนื่องจากพวกตึกระฟ้าต่างๆมีขนาดที่สูงใหญ่ขึ้น ดังนั้นหากเจ้าตัวก๊อตซีล่า (Godzilla) มีขนานเท่าเดิม มันจะดูไม่ยิ่งใหญ่ คือไม่ดูน่ากลัวอะไร เพราะหัวไม่พ้นหลังคาตึก ดังนั้นเลยมีความจำเป็นที่มันจะต้องตัวใหญ่ขึ้น ว่ามั้ยครับ ดังนั้นในอนาคต เราอาจจะได้เห็นเจ้าสัตว์ประหลาดนี้มีความสูงเพิ่มไปเป็น 200 หรือ 300 เมตรก็เป็นได้นะครับ (คงได้ไปสูงกันในอวกาศ หรือใต้น้ำกันล่ะที่นี้) 

Project การทำอาหาร เมนู ไข่ลวก 温泉卵 วัตถุดิบ ไข่ไก่ น้ำเย็น วิธีการ ๑.  ต้มน้ำให้เดือด โดยกะให้น้ำมีพอที่จะท่วมไข่ได้ทั้งใบ ๒.  เมื่อน้ำเดือดแล้ว ให้ปิดไฟทันที่ จากนั้นใส่ไข่ลงไปในน้ำเดือด แล้วปิดฝาทิ้งไว้นาน ๙ นาที ๓.  เตรียมน้ำเย็นจัดเอาไว้ (โดยใส่น้ำแข็งด้วยก็ได้) นำไข่ขึ้นจากน้ำร้อน แล้วนำลงน้ำเย็นทันที่ (เพื่อหยุดปฏิกิริยาความร้อน ในไข่) สักประมาณ ๑ นาที เป็นอันเรียบร้อย หมายเหตุ ๑.  ทำแล้วสามารถเก็บไข่ไว้ในตู้เย็นไว้กินตอนอื่นก็ได้ ๒.  อย่าใช้ไข่เก่าทำนะครับ เละเปล่าๆ

Project การทำอาหาร เมนู หมูต้มซีอิ้วญึ่ปุ่น ブタ丼 ทำไมถึงอยากจะทำเมนูนี้ล่ะ      เพราะคิดว่าเด็กๆจะชอบกิน (ต้มหอมจนเปื้อยเลยทีเดียว) และน่าจะทำได้ง่ายๆด้วย ส่วนประกอบ หมูสามชั้น สไลด์ 250g หัวหอม 1 หัว โชยุ น้ำตาล วิธีทำ ๑.  หันหมูสไลด์ให้ได้ชิ้นพอดีๆ ๒.  หันหัวหอมเป็นเส้นๆ ๓.  ต้มน้ำพอเดือด ก็ใส่หัวหอมลงไป (ต้มนำไปก่อนสักพัก เพราะอยากได้หัวหอมนิ่มๆ) ตามด้วยเนื้อหมู เสร็จแล้วก็ให้ใส่ โชยุ ประมาณ ๕ ช้อนโต๊ะ น้ำตาล ๑ ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน (ใช้น้ำประมาณ ๓ เท่าของโชยุ) ๔.  ต้มต่อไปประมาณ ๑๐ นาที เป็นอันเสร็จ (ม่าม่าบอกให้ปิดฝาทิ้งไว้อีกประมาณ ๒~๓ นาที) หมายเหตุ ๑.  ให้ใช้ไฟอ่อนนะ ๒.  หมูสไลด์บางๆ ดีกว่า ๓.  เหมาะที่จะกินกับไข่ลวกนะเนี้ย

   การอ่านหนังสือให้เด็กทารกฟังนั้นมีความสำคัญมาก เพราะแม้ว่าจะดูเหมือนกับเด็กนั้นยังไม่มีความพร้อม ความเข้าใจความหมายของสิ่งที่เรากำลังพูดหรืออ่านให้เขาฟัง แต่ในความเป็นจริงแล้ว เด็กมีความสามารถในการเรียนรู้ตั้งแต่เขายังแบเบาะ ก่อนที่เขาจะมีความสามารถในการอ่าน และติดต่อสื่อสารเด็กก็มีความสามารถในการเรียนรู้พร้อมอยู่แล้ว ดังนั้นเพื่อปลูกฝังนิสัยรักการอ่าน และเพื่อให้เด็กมีได้ใช้ความสามารถในการเรียนรู้อย่างเต็มที่ พ่อแม่ควรจะเริ่มอ่านหนังสือให้เด็กฟังตั้งแต่ช่วงแรกของชีวิตจะดีกว่า   หนังสือที่ควรจะอ่านให้เด็กฟังนั้น แม้เด็กจะยังไม่เข้าใจความหมายแต่มันก็จะดีกว่ามากหากเราเลือกเนื้อหาที่ไม่รุนแรง โดยควรเลือกเอาหนังสือที่มีรูปประกอบสวยงาม น่ารัก โดยหากเป็นหนังสือที่มีผิวสัมผัสต่างๆให้เด็กได้เรียนรู้ไปด้วยก็จะดีมาก   เวลาและสถานที่ในการอ่านหนังสือ พ่อแม่ควรเลือกดูเวลาที่เด็กมีอาการผ่อนคลาย ไม่ได้อยู่ในอารมย์ที่กำลังคึก หรือสนุกสนานมากเกินไป หรือเป็นเวลาที่เด็กจะง่วงนอน เพื่อให้เด็กได้มีสมาธิได้อย่างเต็มที่ ส่วนสถานที่นั้นควรเป็นที่ที่มีแสงสว่างมากเพียงพอ และเงียบ ...