Skip to main content

Posts

Showing posts from 2015

๋Japan SalaryMan เป็นได้มากกว่ามนุษย์เงินเดือน

ผู้เขียน  :  ภัทรพล เหลือบุญชู ISBN  :  978-974-02-1403-8 ปีที่พิมพ์  :  2015 สำนักพิมพ์  :  มติชน จำนวนหน้า  :  184 หน้า ราคา  :  190 บาท  สรุปเนื้อหาสำคัญ    หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่บอกเล่าความเป็นจริงในสังคมการทำงานของญี่ปุ่น ที่เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปเลยว่าเป็นประเทศที่ "บ้างาน" เป็นอย่างมาก โดยผู้เขียนได้ใช้ประสบการณ์ตรงที่ได้รับจากการเป็น มนุษย์เงินเดือนที่ประเทศญี่ปุ่นมาถ่ายทอดให้อ่านได้อย่างสนุก    โดยผู้เขียนได้เล่าอย่างเป็นลำดับตั้งแต่ก่อนจะสมัครงานซะอีก เอากันขนาดนั้นเลย จดถึงขันตอนการสมัคร ลงรายละเอียดลึกไปจนถึงการกรอกใบสมัครกันเลย พอเริ่มทำงานก็ต้องเจอกับสภาพการทำงานที่จริงจังมากๆของชาวญี่ปุ่น      รวมถึงการที่จะต้องไปสังสรรค์หลังเลิกงานกันอยู่เป็นประจำ (อันนี้ทางผมเองก็ไม่ชอบเลยครับ คิดว่าต้องเป็นความชอบส่วนบุคคลซะมากกว่า)    คุณคิดว่าที่นั้งตรงไหนในรถที่เป็นที่นั้งสำหรับผู้ใหญ่ที่สุด หรือลูกค้าคนสำคัญ? หรือการเข้าลิฟท์แล้วผู้น้อยควรยืนอยู่ตรงไหน ยืนอย่างไร?  อาจจะเพราะคนไทยไม่ค่อยให้ความสนใจในเรื่องแบบนี้สักเท่าไร เราเลยไม่ค่อยจะรู้ หรือแม

Andy & Me เซ็นเซ กับ ผม

ผู้เขียน  :  Pascal Dennis แปลโดย  :  ดร.วิทย สุหฤทดำรง และ ธัญธร ขจรรุ่งศิลป์ ISBN  :  978-974-7628-64-7 ปีที่พิมพ์  :  2007 สำนักพิมพ์  :  E.I.SQUARE จำนวนหน้า  :  241 หน้า ราคา  :  260 บาท  สรุปเนื้อหาสำคัญ    เป็นหนังสือที่สอนเกี่ยวกับเรื่อง LEAN และ วิถีการทำงานในแบบ โตโยต้า (TPS) ในรูปแบบของเรื่องเล่าผ่านตัวละครสำคัญคือ ทอมมี่ (ผู้ทำงานเป็นผู้จัดการโรงงานผลิตรถยนต์แห่งหนึ่งที่กำลังประสบปัญหาอย่างหนัก และอาจจะถึงขั้นต้องปิดโรงงานในไม่ช้า) และ แอนดี้ (ผู้เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่อง TPS หรือ LEAN production อดีตยอดฝีมือแห่งโตโยต้า)    ถึงแม้ในหนังสือจะไม่ได้ให้รายละเอียดในการทำ TPS อย่างละเอียดขนาดจะเอาไปทำให้เกิดผลได้เอง แต่สิ่งที่หนังสือเล่มนี้ให้อย่างมากคือ แนวทาง และแนวคิดที่แสดงออกอย่างชัดเจนผ่านทางตัวละครหลัก เช่นการมีของเกะกะตามทางเดิน คือความผิดปกติ เพราะมันอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ จำเป็นจะต้องมีมาตราการแก้ไข และป้องกันให้ดี    หัวใจของระบบ TPS อย่างง่ายๆคือ การผลิตให้พอดีกับความต้องการของลูกค้านั้นเอง ซึ่งจะสามารถทำได้ก็ต่อเมื่อเรามีการอ

ภาพวาดสรุปน้องหมาทุกสายพันธ์

ภาพสรุปรวมน้องหมาทุกสายพันธ์ (คาดว่าจะครบนะ เพราะเยอะ) credit ภาพ pinterest.com

คนแพ้มองแต่ปัญหา คนชนะมองหาทางออก

ผู้เขียน  :  คิม ซอง โฮ   แปล  :  ภัททิรา จิตต์เกษม ISBN  :  978-616-18-0298-1 ปีที่พิมพ์  :  2015  /  Original 2012 สำนักพิมพ์  :  อมรินทร์ จำนวนหน้า  :  232 หน้า ราคา  :  195 บาท  สรุปเนื้อหาสำคัญ    "คนที่ตั้งใจทำงานจะมองเห็นวิธี คนที่ไม่ตั้งใจทำจะมองเห็นข้อแก้ตัว"  เป็นคำกล่าวที่ดูจะจริงอยู่ไม่น้อย สิ่งที่อันตราสำหรับธุรกิจนั้นคือ การขาดความคิดริเริ่มใหม่ๆ โดยมักจะพอใจอยู่กับสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบันมากเกินไปนั้นเอง    การปรับตัว และการริเริ่มทำเรื่องใหม่ๆเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกธุรกิจ ตัวอย่างเช่น ฟูจิฟิล์มที่ได้ทำเมื่อเกิดปัญหากับตลาดฟิล์มเมื่อปี 2004 โดยตลาดมีขนาดลดลงเหลือเพียง 1 ใน 13 สิ่งที่ฟูจิทำคือ อดทนยอมรับการเปลี่ยนไปของ อุตสาหกรรมโดยจะต้องมีความกล้าที่จะพลิกอุตสาหกรรมให้มีความหลากหลาย โดยฟูจิขยับเข้ามาสู่ธุรกิจเครื่องสำอาง โดยการปรับเปลี่ยนองค์กรขนานใหญ่     ในขณะที่ยักย์ใหญ่แห่งอุตสาหกรรมฟิล์มคือ โกดักที่ไม่สามารถที่จะปรับตัวได้จึงต้องมีอันจบลง    ตัวองค์กรเองไม่ได้มีความสามารถด้วยตัวมันเอง ความสามารถขององค์กรคือ ความสามารถของบุคคลากรที่อยู่ในองค์

มหัศจรรย์แห่ง กลยุทธ์ทางธุรกิจ

ผู้เขียน  :  นรินทร์ โอฬารกิจอนันต์ ISBN  :  978-974-09-5952-6 ปีที่พิมพ์  :  2007 สำนักพิมพ์  :  Dekisugi.net จำนวนหน้า  :  208 หน้า ราคา  :  168 บาท  สรุปเนื้อหาสำคัญ    เริ่มจากปี 1971 ซึ่งนาย เคนเน็ธ อาร์ แอนดรูว์ ได้นำเสนอแนวคิดเรื่อง กลยุทธ์ในทางธุรกิจขึ้นมา โดยเป็นแนวคิดให้บริษัทรู้จักการค้นหาจุดแข็ง จุดอ่อนของตัวเองแล้วนำมาปรับใช้ให้เหมาะกับสภาวะแวดล้อมของตลาด และคู่แข่ง     ซึ่งต่อมาได้มีการพัฒนาแนวคิดนี้ จนถึงในปี 1980 โดยศาสตราจารย์ ไม่เคิล อี พอร์เตอร์ ได้เขียนหนังสือเรื่อง กลยุทธ์การแข่งขัน (Competitive Strategy) ที่ได้รับความนิยมจากนักธุรกิจทั่วโลกเป็นอย่างมาก    หนังสือได้ยกตัวอย่างกรณีศึกษาเกี่ยวกับสายการบินเซาธ์เวสต์ ที่เน้นจุดแข็งในการบินในเส้นทางที่เชื่อมระหว่างเมืองที่ไม่ใช้เมืองใหญ่เข้าด้วยกัน โดยมีที่นั้งแบบเดียว คือชั้นประหยัด ไม่มีการเสิร์ฟอาหาร หรือระบุที่นั้ง ใช้เครื่องบินแค่รุ่นเดียวเท่านั้น เพื่อประหยัดค่าบำรุงรักษา และสามารถต่อรองราคากับผู้ผลิตเครื่องบินได้ (โบอิ้ง 737) ซึ่งส่งผลให้ทางสายการบินเซาธ์เวสต์สามารถที่จะมีต้นทุนในการบินต่ำกว่

Dare To Do = กล้าลุยไม่กลัวล้ม

ผู้เขียน  :  กรณ์ จาติกวณิช ISBN  :  978-616-382-400-4 ปีที่พิมพ์  :  2015 สำนักพิมพ์  :  The Five Frogs จำนวนหน้า  :  256 หน้า ราคา  :  290 บาท  สรุปเนื้อหาสำคัญ    หนังสือเล่มนี้เป็นเหมือนกับการรวบรวมตัวอย่างของคนทั้งรุ่นใหม่ และรุ่นเก่าที่มีความกล้า กล้าที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองเชื่อ ตัวเองฝันไว้ โดยไม่กลัวความยากลำบาก หรือความล้มเหลวที่อาจจะเกิดขึ้นได้ อาจจะกล่าวได้ว่าเป็นหนังสือแนวให้กำลังใจสำหรับคนที่มีความอยาก แต่ก็ยังคงมีความกลัวอยู่เหมือนกัน    ในหนังสือได้มีการสัมภาษณ์ผู้ประกอบการที่น่าสนใจไว้หลายแห่ง เช่น GrabTaxi สุดยอด app สำหรับการเรียก Taxi ที่ hot สุดๆในเวลานี้, หมูทอดเจ๊จงเจ้าดังแห่งคลองเตย, วงษ์พาณิชย์ เจ้าพ่อธุรกิจ recycle แห่งเมืองไทย, Ensogo e-coupon ยอดนิยม, After you ร้านขนมหวานสุด chic ที่ใครๆก็ชอบ หรือ HUBBA ธุรกิจรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า co-working space หรือเรียกง่ายๆว่า การให้บริการสถานที่ทำงาน    โดยเจ้าของธุรกิจต่างๆ ต่างมีพื้นฐานที่ไม่เหมือนกัน แนวคิดธุรกิจที่ต่างกัน แต่สิ่งที่มีเหมือนๆกันคือ ความมุ่งมั่นในสิ่งที่ตัวเองต้องการจะทำ    บอกตามตรงที่อ

เรียนรู้จากตำราแะทักษะมากมาย ทำไม ทำกำไร ไม่ได้สักที?

ผู้เขียน  :  Ryosuke Yoshii  แปลโดย สุภารัตน์ ศิริรัตนพันธ ISBN  :  978-974-443-393-0 ปีที่พิมพ์ครั้งแรก  :  2007 จัดพิมพ์โดย  :  สำนักพิมพ์ ส.ส.ท. จำนวนหน้า  :  160 หน้า ราคา  :  180 บาท สรุปเนื้อหาสำคัญ    เป็นหนังสือแนว know how ที่เวลาอ่านแล้ว รู้สึกเหมือนกับกำลังนั้งฟังงานสัมนาอยู่อย่างไงอย่างนั้นเลย ผู้เขียนเขียนได้เหมือนกำลังเล่าเรื่องราวสนุกๆอะไรสักอย่างอยู่ ทำให้เวลาเราอ่านก็รู้สึกสนุกไปด้วย    เทคนิคในการเขียนเพื่อที่จะให้เพิ่มยอดขายได้ หลักการเขียนตามตำรานั้นกำหนดให้ต้องมี คำกล่าวแนะนำ, มีรูปของสินค้า, มีสเปกของสินค้า และมีราคา แต่ผู้เขียนแนะนำว่า แค่นี้มันยังไม่พอ เพราะแท้ที่จริงแล้วคนเราซื้อของเพราะความรู้สึกว่าอยากได้ ดังนั้นสิ่งสำคัญในการเขียนคำโฆษณามีเพียง 2 ข้อ คือ 1.) ลำดับของเรื่องราวในการแนะนำสินค้า คือ ต้องเริ่มจากการกล่าวถึงปัญหาที่เราคาดว่าลูกค้าเป้าหมายของเราต้องเผชิญอยู่ ยิ่งเราบอกปัญหาได้ตรงเท่าไร ก็จะยิ่งทำให้ของที่เรานำเสนอมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น 2.) แล้วจึงค่อยตามด้วยการอธิบายถึงคุณสมบัติของสินค้าของเรา ที่จะช่วยแก้ปัญหานั้นๆ ได้ พร้อมทั้ง

พลังงานฉบับการ์ตูน

ผู้เขียน  :  Katsuhiro Saito แปลโดย ดร.อรรณพ เรืองวิเศษ ISBN  :  978-974-443-613-9 ปีที่พิมพ์ครั้งแรก  :  2010 จัดพิมพ์โดย  :  สำนักพิมพ์ ส.ส.ท. จำนวนหน้า  :  195 หน้า ราคา  :  235 บาท สรุปเนื้อหาสำคัญ    หนังสือทีสอนเกี่ยวกับพลังงานต่างๆ โดยใช้รูปแบบการ์ตูนมาช่วยให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น (อย่างไรก็ตาม ก็ยังเป็นเรื่องที่ยากอยู่ดี โดยเฉพาะกับคนที่ไม่ได้ใช้ หรือกำลังเรียนรู้ในเรื่องเหล่านี้) โดยในช่วงต้นหนังสือจะแนะนำถึงพลังงานโดยทั่วไป เช่นความหมายของพลังงาน กฏพื้นฐานของพลังงาน (กฏการอนุรักษ์พลังงาน) พลังงานในรูปแบบต่างๆ เช่น พลังงานศักย์ พลังงานภายในโมเลกุล พลังงานความร้อน พลังงานนิวเคลียร์ และพลังงานสะอาด    ในส่วนของบทที่่ 2 จะเป็นการอธิบายเกี่ยวกับปฏิกิริยาเคมี กับพลังงานไฟฟ้า บอกตรงๆเลยว่า อ่านไปก็งงไป เพราะความรู้เรื่องพันธะเคมี ร่วมไปถึงเรื่องปฏิกิริยาเคมี ได้ทำการคืนความรู้ที่คุณครูเคยสอนไว้ กลับไปให้ท่านจนเกือบไม่เหลืออะไรแล้ว แต่ก็พออ่านได้ไอเดียพอสมควร     จากนั้นหนังสือจะพาเราไปเรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานจากการเผาไหม้ (เป็นพลังงานส

พลิกโอกาสธุรกิจด้วยดิจิทัล = Digital Transformation

ผู้เขียน  :  อุไรพร ชลสิริรุ่งสกุล ISBN  :  978-616-7536-53-8 ปีที่พิมพ์  :  2556 / 2013   สำนักพิมพ์  :  กรุงเทพธุรกิจ จำนวนหน้า  :  200 หน้า ราคา  :  189 บาท  สรุปเนื้อหาสำคัญ    นี้เป็นหนังสือที่กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับสิ่งที่เราเรียกกันว่า ดิจิตัล (Digital) ทั้งอินเตอร์เน็ต และโทรศัพท์มือถือ ที่ปัจจุบันเราสามารถพูดได้ว่าเป็นสิ่งที่่ขาดไม่ได้ไปเสียแล้วสำหรับการใช้ชีวิตของผู้คนทั่วไป เราสามารถยืนยันได้จากจำนวนของผู้ใช้ facebook ที่มีมากกว่า 1.15พันล้านราย เฉพาะในไทยก็กว่า 24 ล้านคนแล้ว สำหรับโทรศัพท์มือถือก็มีกว่า 6.8 พันล้านเครื่องทั่วโลก (กันยายน 2013)    อันเนื่องมาจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของ smartphone ทำให้เกิด app ใหม่ๆที่สนองความต้องการใช้งานของผู้คนมามาย ในปัจจุบันเราสามารถทำสิ่งต่างๆผ่านทางโทรศัพท์มือถือได้อย่างง่ายดาย เช่นการทำธุรกรรมธนาคารต่างๆ การชำระเงินผ่านทางบัตรเครดิต การชอปปิง การแชร์รูปถ่ายต่างๆ ดูหนังหรือรายการโทรทัศน์ (วิดีโอสตรีมมิ่ง)     เทรนที่กำลังมาแรงเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยี่ในปัจจุบันนี้คือ การใช้มันเพื่อดูแลสุขภาพของเรา โดยในปัจจุ

เคล็ดลับ 5 ข้อ จูงสุนัขอย่างปลอดภัย

5  เคล็ดลับจูงสุนัขอย่างปลอดภัย              เรื่องจูงสุนัขนั้นหลายท่านคงคิดว่าเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย ใคร ๆ ก็น่าจะทำได้อย่างไม่มีปัญหา แต่เชื่อหรือไม่ว่าจากการสังเกตของเคสที่พาสุนัขมารักษาที่โรงพยาบาลนั้น พบว่ามีเพียงไม่เกิน ๒๐% ที่สามารถจูงสุนัขมาได้อย่างราบรื่น นอกนั้น จะอุ้มใส่กระเป๋ามาโดยเฉพาะหากเป็นสุนัขขนาดเล็ก หรือขนาดกลาง                 สำหรับสุนัขโตนั้น ส่วนหนึ่งก็ไม่ได้จูงมา แต่กลับเป็น”ลาก” มาแทน ซึ่งบางครั้งก็เกิดปัญหา”หมาหลุด” ขึ้น ต้องวิ่งไล่จับกันอย่างโกลาหล เคราะห์ดีก็จับได้ แต่เคราะห์ร้ายก็มี ตั้งแต่โดนรถชนแบบเล็กน้อยคือ”เฉี่ยวชน” จนถึงแบบร้ายแรงคือ”ถูกรถทับ” หรือพลัดหลงหายไปเลยก็มี และที่สำคัญไปกว่านั้นโดยเฉพาะคนกทม.ก็คือ กรุงเทพมหานครได้ออกกฎควบคุมการเลี้ยงสุนัขในเขตเมืองหลวงว่า ในกรณีเจ้าของสุนัขหรือผู้ครอบครองสุนัขรายใดจะพาสุนัขออกนอกบ้าน เจ้าของสุนัขดังกล่าวจะต้องใช้สายจูงควบคุมสุนัขตัวนั้นตลอดเวลาที่สุนัขอยู่นอกบ้าน นั่นคือการจูงสุนัขถือเป็นกฎหมาย หากฝ่าฝืนก็จะมีความผิด ถูกปรับเงินด้วย                 ถึงแม้การจูงสุนัขจะเป็นกฎหมายแต่โดยจริงแล้ว กา

ทำงานกับ(นาย)ญึ่ปุ่นอย่างไรให้ HAPPY = 日本人と一緒に仕事するのはとてもやりやすい。 =

ผู้เขียน  :  วิฑูรย์ เทพประดิษฐ์ ISBN  :  978-616-509-377-4 ปีที่พิมพ์  :  2011 สำนักพิมพ์  :  Happy Book จำนวนหน้า  :  160 หน้า ราคา  :  150 บาท  สรุปเนื้อหาสำคัญ    มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะปกติสำหรับคนไทย ที่จะทำงานในบริษัทของประเทศญี่ปุ่น และแน่นอนว่าจะต้องทำงานร่วมกับเจ้านายคนญี่ปุ่น ดังนั้นในหนังสือเล่มนี้จะพูดถึงการทำงานร่วมกับเจ้านายคนญี่ปุ่นอย่างไรให้มีความสุข (ไม่ใช่แค่จ้องจะเลียนายนะครับ)    ลักษณะนิสัย(เฉพาะ) ของคนญี่ปุ่น คือ ความมีระเบียบวินัยเป็นอย่างยิ่งยวด ทุกคนรักษาระเบียบวินัยโดยเฉพาะในเรื่องเวลา และมีความซื่อสัตย์สูง ซึ่งเราต้องยอมรับว่าอาจจะไม่ตรงจริตกับคนไทยสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะในเรื่องการทำตามระเบียบ เพราะทำอะไรตามใจคือไทยแท้ ของเรานี้แหละ เช่นในเรื่องเวลาที่คนญี่ปุ่นถือเป็นเรื่องใหญ่ ต้องไปก่อนเวลาอย่างน้อยสัก 15 นาที ในขณะที่คนไทย การไปสายสัก 5 -10 นาทีถือว่าอยู่ในเกณฑ์รับได้ (และโดยมากเราจะไม่ค่อยแจ้งคู่นัดหมายด้วย หากไปสายสัก 5 นาที)     การสอนงานในระบบของคนญี่ปุนมักจะเป็นแบบ "สอนหน้างาน" on the job training คือการสอนงานจริง โดยหัวห

สารอาหารที่จำเป็นกับสุนัข

สารอาหารที่จำเป็นกับสุนัข การให้อาหารเสริมสุนัข  ปริมาณอาหารที่ ให้แก่สุนัขนั้น แตกต่างกันไปสำหรับแต่ละตัวเพราะขึ้นอยู่กับความต้องการพื้นฐานที่ต่างกัน เช่น ขนาด วัย ระยะตั้งท้อง กำลังป่วยหรือฟื้นไข้ เป็นต้น จึงเป็นเรื่องที่เจ้าของสุนัขควรสังเกต เอาใจใส่ และตัดสินใจให้ปริมาณอาารในจำนวนที่เหมาะสมสำหรับสุนัขแต่ละตัว อย่าให้สุนัขกินมากหรือน้อยไปในแต่ละมื้อ โดยอาจจะดูจากท้องสุนัขที่อิ่ม จะขยายมากกว่ากระดูกซี่โครงเพียงเล็กน้อย ไม่ใช่กินจนป่องเต็มที่หรือเอวกิ่วจนดูไม่ได้และควรติดตามดูสภาพความสมบูรณ์ ของสุนัขซึ่งคงบอกได้คร่าวๆว่าสุนัขได้รับสารอาหารเพียงพอหรือไม่ อาหารสุนัข สารอาหารที่จำเป็นสำหรับสุนัข สาร อาหารที่จำเป็นสำหรับสุนัขที่กำลังเจริญเติบโต ก็เช่นเดียวกับคน คือมัน จะต้องการ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามิน ไขมัน แร่ธาตุ น้ำ จะแตกต่างกันที่ปริมาณเท่านั้น หากต้องการจะทำอาหารให้สุนัขทานควรเป็นประเภท ข้าว เนื้อสัตว์ ผัก เป็นองค์ประกอบหลัก และปรับปรุงรสชาติให้น่าทาน เพราะสุนัข ก็มีต่อมรับรส เช่นเดียวกัน หากอาหารที่คุณทำดีมีรสชาติถูกใจ มันก็จะ เจริญ อาหาร ทานจนพุงกาง ไปเลย ควรเปล

ปิ๊งด้วยภาพ = The Back of the NAPKIN Solving problems and selling ideas with picture =

ผู้เขียน  :  แดน โรม แปล  :  สีนวล ฤกษ์สิรินุกุล ISBN  :  978-616-14-0035-4 ปีที่พิมพ์  :  2011  /  Original 2008 สำนักพิมพ์  :  Book Time จำนวนหน้า  :  296 หน้า ราคา  :  370 บาท  สรุปเนื้อหาสำคัญ    ในการแก้ปัญหา หรือระดมสมอง วิธีการที่จะทำให้ทุกคนเข้าใจได้ง่ายที่สุด คือการสื่อสารด้วยภาพ (โดยที่คุณไม่จำเป็นที่จะต้องวาดภาพเป็นเลย) โดยใช้หลักการ 3 - 4 - 5 - 6 3  :  3 เครื่องมือพื้นฐานที่เราทุกคนมีอยู่แล้ว        1) ตาของเรา เพื่อเก็บข้อมูลตามความจริง        2) ตาในใจ เพื่อเห็นสิ่งที่เป็นในจินตนาการ        3) การประสานงานระหว่างมือ กับตา เพื่อสร้างภาพนั้นออกมา 4  :  4 ขั้นตอนที่เราทุกคนสามารถทำได้กันอยู่แล้ว        1) การดู เป็นการรับข้อมูลโดยรวม        2) การเห็น เป็นการเจาะลึกข้อมูลในส่วนที่เราให้ความสนใจ (โดยใช้หลักการ 6 วิธีการในการเห็น และแสดงออก)        3) การจินตนาการ เป็นการสร้างภาพที่ยังไม่มีอยู่จริงออกมา (โดยใช้หลักการ 5 คำถามที่ใช้เพื่อกระตุ้นการทำงานของสมองทั้งสองด้าน) ซึ่งในส่วนนี้เองที่มีความสำคัญเพราะมันคือการคิดเพื่อแก้ปัญหา หรือสร้างความคิดใหม่ๆใ

5 อย่างที่ทำให้สุนัขเหนือกว่าคน

ทำไมสุนัขถึงเก่งกว่าคน ลองดูตามหัวข้อง่ายๆ 5 หัวข้อด้านล่างเลยครับ การมองเห็น-สุนัขตาบอดสีจริงเหรอ ?คงเคยได้ยินว่าสุนัขตาบอดสี สามารถมองภาพได้ 2 สีเท่านั้น คือสีขาวกับสีดำ แต่จากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์นั้นบอกได้เลยว่าไม่จริง จริงๆ แล้วสามารถมองสีสันได้ แต่ไม่อาจบอกได้ว่ามองเห็นเป็นสีอะไรบ้าง  ส่วนคนเรามองสีสันได้ประมาณ 7-10 ล้านสี  สุนัขมีความรู้สึกได้ไวกว่าคนทั้งหมด ทั้งยังสามารถมองเห็นในเวลากลางคืนได้ดีกว่าคน (สงสัยจะกินฝักทองเยอะ เลยมองเห็นในที่มืดได้ดี) ^0^ สุนัขมีประสาทตาที่ทำให้ภาพนั้นสะท้อนกลับเรียกว่า tapetum lucidum ที่จะสะท้อนแสงกลับไปที่เซลล์รับแสงในดวงตา สิ่งนี้แหละที่เวลาเรามองตาสุนัขในเวลากลางคืน ดวงตาจะน่ากลัว วับๆ สุดยอดหู-หูของสุนัขสามารถได้ยินเสียงได้ไกลว่าคนถึง 4 เท่า ลองนึกดูสิว่าไกลขนาดไหน หูของเค้ามีกล้ามเนื้อที่แตกต่างกัน 15 กล้ามเนื้อที่อยู่ในหูและยังสามารถขยับหูเพื่อค้นหาในสิ่งที่เค้าอยากได้ยิน ดังนั้นหากตอนกลางคืนที่สุนัขเห่าอะไร ก็อย่าไปดุเค้านะ ให้ลุกมาดูว่ามีอะไรผิดปกติรึเปล่า จงเชื่อสัญชาติญาณของเค้า สัมผัส-ลูกสุนัขที่เพิ่งเกิดสามารถ กระดึ๊บ ๆๆ